รีวิว เท่งโหน่ง จีวรบิน
หนังไทยใหม่ล่าสุด ภาพยนตร์เรื่อง เท่ง โหน่ง จีวรบิน เป็นภาพยนตร์ไทยแนวคอมเมดี้ ผลงานการกำกับของ พงษ์ศักดิ์ พงษ์สุวรรณ และสมิทธิ์ ทิมสวัสดิ์ ภาพยนตร์บอกเล่าเรื่องราวของพระและเสี่ย ที่โชคชะตานำพาให้พวกเขาต้องมาเจอและฝ่าฟันอุปสรรคไปด้วยกันภาพยนตร์เรื่องนี้ได้นักแสดงมากความสามารถมากมายมาร่วมแสดงไม่ว่าจะเป็นพงษ์ศักดิ์ พงษ์สุวรรณ ที่มารับบทเป็น พระเท่ง พระที่หลบลี้หนีความวุ่นวายไปจำศีลภาวนาอยู่ที่ต่างประเทศหลายปี และน่าจะได้มีโอกาสกลับมาจำวัดที่ประเทศไทย ถ้า เว็บดูหนัง เว็บดูหนังฟรี
ตั๋วเครื่องบินโดยสารไม่ดันเต็มไปเสียก่อน คนต่อมาคือชูศักดิ์ เอี่ยมสุข รับบทเป็น เสี่ยโหน่ง พ่อค้าอัญมณีเศรษฐีผู้ร่ำรวยทั้งเงินทองและอิทธิพล ถึงเป็นผู้มีอิทธิพลแต่ก็ยังมีกุศลจิตจึงตัดสินใจนิมนต์พระเท่งให้โดยสารเครื่องบินแบบเช่าเหมาลำเดินทางกลับไทยพร้อมกัน โดยภาพยนตร์เรื่อง เท่ง โหน่ง จีวรบิน เป็นภาพยนตร์เมื่อปี 2554
ภาพยนตร์เรื่อง เท่ง โหน่ง จีวรบิน เปิดเรื่องราวมาที่ พระเท่ง พระรูปหนึ่งที่ต้องหลบลี้หนีความวุ่นวายไปจำศีลภาวนาอยู่ที่ต่างประเทศหลายปี โดยที่น่าจะได้มีโอกาสกลับมาจำวัดที่ประเทศไทยอย่างสะดวกโยธินซะที ถ้าตั๋วเครื่องบินโดยสารไม่ดันเต็มไปเสียก่อน และก็เช่นเดียวกันกับ เสี่ยโหน่ง พ่อค้าอัญมณีเศรษฐีผู้มั่งคั่งร่ำรวยและมากล้นไปด้วยอิทธิพล ที่เขาก็ได้บังเอิญมาติดต่อธุรกิจที่เดียวกับพระเท่งพอดี และด้วยความที่เสี่ยโหน่งเป็นคนจิตใจดีเขาจึงตัดสินใจนิมนต์พระเท่งให้โดยสารเครื่องบิน
แบบเช่าเหมาลำเดินทางกลับมาพร้อมกันกับเขา จึงเป็นจุดเริ่มต้นอันนำไปสู่การเดินทางผจญภัยฝ่าวิบากกรรมที่กำลังจะเกิดขึ้นในชีวิตของคนที่เกิดมาเป็น พระ และอีกคนที่เกิดมาเป็น เสี่ย แล้วบทสรุปของเรื่องราวจะเป็นอย่างไรติดตามชมได้ในภาพยนตร์ไทยคอมเมดี้เรื่อง เท่ง โหน่ง จีวรบิน ภาพยนตร์เรื่องนี้คงเป็น หนังตลกขวัญใจใครหลายๆคนเลยใช่มั้ยหล่ะค่ะ ด้วยเนื้อหาของเรื่องที่ทั้งสนุกทั้งอลหม่าน ที่สำคัญคือนักแสดงตลกขวัญใจคนไทยทั้งสองคนนั้นก็คือ เท่งและโหน่ง ที่พวกเขาสองคนพลัดกับปล่อยมุก ตบมุกกันได้อย่างลงตัว เรียก
ได้ว่าดูไปฮาไป ดูไปหัวเราะไป แต่อาจจะติดอยู่ที่การดำเนินเรื่องนิดหน่อย ที่เดินเรื่องช้าและงงๆกับฉากแต่ละฉากในเรื่อง แต่ถึงอย่างนั้นความฮาก็ช่วยให้หนังเดินต่อไปได้อยู่ดี ขอแนะนำสำหรับใครที่เป็นคอหนังตลกไม่ควรพลาดนะคะกับภาพยนตร์ไทยคอมเมดี้เรื่อง เท่ง โหน่ง จีวรบิน
เกือบจะไปดูหนังเรื่องนี้ในโรงก็ด้วยพลังแห่งเพลง “กินตับ” แท้ๆ ยอมรับจริงๆ ว่าเพลงกินตับนี่มันส์ ฮา จังหวะเข้าท่ามาก แล้วการตัดต่อ MV เพลงนี้ก็เด็ด ซึ่งผมว่าเพลงนี้ช่วยประชาสัมพันธ์หนังจีวรบินได้แบบเกินร้อยเลยล่ะครับแต่จนแล้วจนรอดก็ไม่ได้ไปดูในโรง มารอเก็บตกดูตอนแผ่นออกแทน ซึ่งก็รู้สึกโชคดีที่ไม่ได้ตีตั๋วเสียเงินเป็นร้อย เสียแค่ค่าแผ่น 20 บาทเท่านั้น พอทำใจได้ ถ้าเสียเป็นร้อยล่ะคงมีเสียดายเงินแน่ๆ
เนื้อเรื่องก็มาแบบง่ายๆ ครับ เปิดมาก็แนะนำให้เรารู้จักกับ พระเท่ง (พี่เท่ง เถิดเทิง) ที่เพิ่งเสร็จจากการฝึกวิปัสสนาที่ทิเบต แล้วกำลังจะกลับประเทศไทน ทีนี้ตอนขากลับก็ได้เสี่ยโหน่ง (พี่โหน่ง ชะชะช่า) รับอาสาพาขึ้นเครื่องส่วนตัวกลับมาด้วยกัน แต่แล้วก็เกิดเหตุไม่คาดฝันเมื่อมีโจรร้าย (สมชาย เข็มกลัด) แฝงตัวขึ้นไปหวังลักพาเสี่ยโหน่งและคิดจะชิงตู้เซฟของเสี่ยไปด้วย ซึ่งพระเท่งที่อยู่ในเหตุการณ์พอดีก็เลยตกกระไดพลอยโจน โดนจับไปอยู่ในค่ายของพวกโจร แถวๆ เขตชายแดน
เรื่องย่อ รีวิว เท่งโหน่ง จีวรบิน
ขอเล่าประมาณนี้นะครับ เนื้อเรื่องถัดจากนั้นก็ลองไปหาคำตอบกันต่อได้ ด้วยการเช่าหรือซื้อมาชม ซึ่งกระผมแนะนำให้เช่ามาก่อนเถอะครับ อย่าเพิ่งใจเร็วด่วนซื้อเลยมุกฮาที่ขำจัดๆ ปรากฏว่าไปอยู่ในตัวอย่างแล้วก็ MV เพลงกินตับหมดแล้วครับ ส่วนในหนังก็ออกแนวเรื่อยๆ มีมุกยิงตลอด แต่ก็ไม่ได้ขำอะไรนัก แม้จะมีดารารับเชิญเยอะก็เถอะ (หนึ่งในนั้นต้องมีพี่หม่ำแน่นอน) แต่ก็แค่พอยิ้มน่ะครับ
จุดที่ผมว่าหนังมาถูกทางก็คือ การผูกเรื่องให้พระเท่งมาอยู่ในดงโจร ซึ่งถ้าเขียนบทดีๆ ล่ะก็ หนังจะได้ทั้งฮาและสาระเลยล่ะครับ ให้พระเท่งค่อยๆ สอนโจร เปลี่ยน “ใจมาร” ให้กลายเป็น “ใจพระ” สอนทีละคนๆ ระหว่างนั้นก็ใส่มุกไป แค่นี้เท่งโหน่งจีวรบินก็จะกลายเป็นหนังดีได้ไม่ยาก หนังฟรี หนังใหม่
แต่แม้หนังจะมาถูกทาง ทว่าเนื้อในกลับไปอีกทางครับ ก็อย่างที่คาดน่ะแหละ หนังเขาน่ะจะเน้นขำ เน้นฮา เน้นเรื่องใส่มุกมากกว่าใส่สาระ ไปๆ มาๆ เกือบทั้งเรื่องเลยลงสูตรหนังตลกแบบพิมพ์นิยมแบบที่เราคุ้นเคย เพียงแต่มุกทั้งหลายมันไม่ค่อยจะเข้าเป้าน่ะครับ เป็นอีกครั้งที่ผมขอพูดว่า “ไปดูตลกแก๊งสามช่า ในรายการชิงร้อยชิงล้านจะดีกว่าครับ ขำกว่าเยอะ”
ผมรู้สึกเสียดายพอสมควรครับ เพราะหนังน่ะสามารถยกระดับตัวเองให้ได้ทั้งความเป็นหนังฮาและหนังดี แต่ก็ไม่ทำกัน รู้สึกเหมือนตอนดู ตุ๊กกี้ เจ้าหญิงขายกบ น่ะครับ ที่พล็อตเรื่องเข้าท่า และสามารถทำให้เป็นหนังดีที่เอาความน่ารักสไตล์ตุ๊กกี้มาขายได้ เช่น หน้าไม่สวยแต่ใจงาม ดูกะเปิ๊บกะป๊าบแต่มีความรับผิดชอบ อะไรทำนองนั้น ซึ่งถ้าหยอดประเด็นพวกนี้มาใส่นี่ จะไม่ใช่แค่ได้หนังดีเท่านั้นนะครับ แต่ยังเป็นการสร้างแบรนด์มุมบวกให้กับตัวตุ๊กกี้ได้อีกเยอะด้วย
แต่แล้วหนังก็เลือกทางสายง่ายครับ นั่นคือเอาฉากมาชนฉาก เอามุกมาชนมุกให้มันครบชั่วโมงครึ่งเท่านั้นเอง กับเรื่องจีวรบินนี้ ก็คล้ายกันครับ มุกชนมุก ฉากชนฉาก ดูได้แบบเรื่อยๆ แต่จบแล้วก็จบกัน ไม่ได้สร้างความประทับใจอะไร ทั้งๆ ที่หนังสามารถไปถึงจุดนั้นได้ เพราะหลายฉากก็เข้าท่านะ อย่างตอนที่คนหนึ่งในแก๊งโจรพยายามปกป้องพระเท่ง ด้วยความสำนึกในบุญคุณ หรือชื่อของหัวหน้าโจร (รับบทโดยพี่สมชาย ศักดิกุล) ก็มีประเด็นให้เล่นต่อได้อีกเยอะ
โดยส่วนตัวแล้ว ผมว่าหลวงพี่เท่งนั้นเข้าท่ากว่าครับ ไม่ว่าจะในแง่สาระหรือความตลก จนอยากจะให้พี่เท่งได้กลับไปสวมบทหลวงพี่เท่งอีกสักรอบจังเรื่องของนักแสดง อันนี้หายห่วงอยู่แล้วครับ แต่ละคนเล่นได้ดีนะ เพราะส่วนใหญ่ก็มาเล่นเป็นตัวเอง 555 บทคุ้นเคยๆ ทั้งนั้น แต่ที่ออกจะงงนิดหน่อยคือพี่โหน่งแกมาซะน้อยเชียว ตอนแรกนึกว่าจะโผล่มาตีคู่ ได้รับการสอนสั่งจากพระเท่งจนกลับใจเป็น
คนดี แต่นี่ถึงตอนจบเสี่ยโหน่งก็ยังป่วนศาสนาเท่าเดิม อันนี้ก็แอบเสียดายอีกนิด เพราะจริงๆ พี่โหน่งแกเล่นหนังเก่งนะครับ (ดูอย่างใน ฟอร์มาลีน แมน ก็ได้ครับ พี่แกเล่นตลกก็ดี แต่พอถึงเวลาต้องดราม่านี่ก็ยอดเยี่ยมไม่หยอกเหมือนกัน)คงจะดีครับถ้ามีการทำภาคต่อ แล้วลองจับเอาพระเท่งกับเสี่ยโหน่งมาป่วนคู่กัน ให้พระเท่งสอนธรรม สอนหลักแห่งชีวิตให้เสี่ยโหน่ง พร้อมหยอดมุกฮาลงไป ผมว่าก็น่าจะเข้าท่านะ (แต่เน้นปริมาณสาระดี ให้เยอะขึ้นอีกหน่อยแล้วกัน)
รีวิว เท่งโหน่ง จีวรบิน
จากที่ดูงานของพี่เท่งพี่โหน่งมา 3 เรื่อง (โหน่งเท่ง นักเลงภูเขาทอง, เท่งโหน่ง คนมาหาเฮีย และ เท่งโหน่งจีวรบิน) ก็รู้สึกว่าในพล็อตในบทหนังแต่ละเรื่องนั้น “มีของดีในตัวมาก เล่นประเด็นได้เยอะ” ทำให้เป็นหนังตลกผสมสาระได้ทั้งนั้น อย่างนักเลงภูเขาทองนี่ก็เล่นกับการแสดง “ลิเก” อันเป็นเอกลักษณ์ของไทยได้ หรือคนมาหาเฮีย ก็เล่นประเด็นยิงมุกระหว่างทางแบบหนัง Dumb and Dumber ได้ หรือกับเรื่องจีวรบินนี่ ก็เล่นเรื่องธรรม เรื่องการสอนคนได้สบายๆ…
หนังพยายามผสมผสานความตลก เข้ากับคติธรรม รวมไปถึงความทะลึ่งตึงตังโปกฮา อันดูผิดที่ผิดทาง แต่ผู้ชมส่วนใหญ่น่าจะสนุกไปกับหนัง (รอบที่ผมดูคนอื่นเขาก็ขำกันทั้งโรงนะ), ฉากที่ดูเหมือนจะช่วยสร้างความน่าติดตาม ในการถอดรหัสลับในการเปิดเซฟ หรือเฉลยถึงสิ่งสำคัญที่แย่งกันจะเป็นจะตาย ก็ เฉยๆอีก ไม่ได้ตื่นเต้นอะไรเลย แขกรับเชิญเยอะมากๆ คนนู้นก็ใช่ คนนี้ก็ใช่ มากันคนละนิดละหน่อย ขนาดคนที่คิดว่าคงจะมาเล่นเยอะๆ ก็มาแค่นิดหน่อยจริงๆ (น่าจะชินแล้วนะ) หนังสามช่าทั้งที ก็มารวมญาติกันดีกว่า ส่วนซีจีของหนัง ก็ดูเป็นซีจี๊ซีจี ตามงบประมาณของหนังที่มี ดูหนังฟรี ดูหนังออนไลน์
หนังออกตัวว่า เป็นหนังที่ไม่มีคำหยาบ ดูกันได้ทั้งครอบครัว (หนังได้เรท น. 15) ซึ่งก็เข้าใจได้ยากว่า คำหยาบมันร้ายแรงมากขนาดนั้นเชียวหรือ หากมันเป็นบทสนทนาที่แสดงถึงนิสัย พื้นเพ ความรู้สึกของตัวละครในขณะนั้น มันก็ไม่ผิดอะไรที่จะพูดออกมา แต่ในขณะที่ความทะลึ่งตึงตัง สองแง่สองง่าม ส่อนัยยะทางเพศ การใช้ยาเสพย์ติด ความรุนแรงของการกระทำเช่นยิงกันตาย คนตาย กลับนำมาใช้เป็นเรื่องตลกขำๆ ดูกันเพลิน อ่ะเด็กดูได้นะ มันก็แค่ทะลึ่ง แค่ยิงหัวกันตายแล้วขำ อย่างนั้นหรือ?
หรือผู้ใหญ่จะคิดว่า เด็กคงไม่เข้าใจหรอก ว่ามันทะลึ่งตรงไหน โหดตรงไหน มีผู้ใหญ่เนี่ยแหละที่เกิดมานาน รู้เยอะ ใจเลอะเปรอะไปแล้ว เลยรู้สึกว่ามันไม่ใช่สิ่งที่เด็กควรจะได้ขำด้วย แล้วยิ่งได้อยู่ในหนังพระนี้อีก พาเด็กไปดู ก็ให้คำแนะนำเด็กๆด้วยนะครับ ถ้าเด็กถามว่า ฉากเผากัญชาทำไมคนถึงขำกันหล่ะพ่อ
อีกเรื่องที่ตะหงิดน่าดูคือ การที่ตัวละครโจรในหนัง มีการแสดงออกที่ไม่ได้มีความเคารพในตัวพระ ตะโกน ตะคอก กระแทกกระทั้น ขบขัน ดูถูก ไม่ให้เกียรติ ดังนั้น การที่เราจะดูหนังเท่งโหน่ง จีวรบิน เราต้องมีข้อละเว้นไว้ในใจก่อนเลยว่า มันเป็นเพียงหนังสมมติ ตัวละครมีสันดานดิบเถื่อนตามบทบาท จึงแสดงอาการนั้นออกมา ซึ่งไม่ผิดอะไร และพระในหนัง ก็เป็นเพียงตัวละครที่สวมบทบาทห่มจีวร รีวิวหนังไทย