รีวิว the rescue
หนังไทยใหม่ล่าสุด สวัสดีครับ วันนี้แอดมินมาแนะนำหนัง ที่สร้างมาจากเรื่องจริง เรื่องราวของเด็กวัยรุ่นกลุ่มนึงที่ได้ไปติดอยู่ในถ้ำแห่งหนึ่งในประเทศไทย จึงเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวเหล่านี้ครับ อีกหนึ่งเซอร์ไพรส์ในการประกาศผู้เข้าชิงรางวัลออสการ์ครั้งที่ 94 เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา คือสารคดีเรื่อง The Rescue (2021) ที่ย้อนบันทึกเรื่องราวบีบหัวใจของ ‘ภารกิจกู้ภัย’ เหตุการณ์ทีมนักฟุตบอลเยาวชน ‘หมูป่า’ จากเชียงราย ติดอยู่ในถ้ำหลวงหลังน้ำท่วมขัง ระหว่างวันที่ 23 มิถุนายน – 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2561 รวมเวลากว่า 16 วัน จะไม่ติดโผการเสนอชื่อในสายสารคดีขนาดยาวอย่างน่าประหลาดใจ ทั้งๆ ที่ตอนได้ฉายที่เทศกาลภาพยนตร์เมืองโตรอนโต หนังก็เป็นที่ชื่นชอบของผู้ชมกระทั่งสามารถคว้ารางวัล People’s Choice Award และได้กลายเป็นตัวเก็งรางวัลออสการ์ในสาขานี้ด้วยซ้ำ ดูหนังฟรี ดูหนังออนไลน์
ส ปอย หนัง สารคดีเรื่องนี้อำนวยการผลิตโดย National Geographic และได้คู่ผู้กำกับ จิมมี ชิน (Jimmy Chin) กับ อลิซาเบธ ไช วาซาร์เฮลยี (Elizabeth Chai Vasarhelyi) ซึ่งเคยคว้ารางวัลออสการ์สาขาสารคดีขนาดยาวยอดเยี่ยม จากสารคดีนักไต่ผาด้วยมือเปล่าอันแสนจะน่าหวาดเสียวเรื่อง Free Solo (2018) มาทำหน้าที่เป็นผู้เล่า จนทำให้ The Rescue กลายเป็นสารคดีสุดระทึกชวนให้ต้องติดตามความเป็นไปต่างๆ ทุกนาที ด้วยทักษะฝีมือการเล่าที่สามารถร้อยเรียงภาพข่าวและฟุตเตจจากแหล่งต่างๆ อันหลากหลาย ประกอบกับส่วนที่ถ่ายทำจำลองขึ้นมาใหม่ ได้เป็นงานสารคดีที่เปี่ยมไปด้วยพลังชวนให้นึกย้อนไปถึงวันคืนอันน่าใจหายและต้องร่วมลุ้นอย่างทุรนทุรายกินเวลายาวนานหลายสัปดาห์ ดูหนังออนไลน์ ดูหนังฟรี
รีวิว the rescue
รีวิว The Rescue สำหรับผู้ชมที่คิดว่า เคยติดตามข่าวและสถานการณ์เหล่านี้จากสื่อต่างๆ มาอย่างใกล้ชิดจนไม่น่าจะมีอะไรใหม่ให้ดูอีกแล้ว ก็คงจะต้องรู้สึกประหลาดใจเมื่อได้เห็นว่าสารคดี The Rescue ยังมีเนื้อหาส่วนที่ไม่เคยได้รับการเผยแพร่ในวงกว้างผ่านทางสื่อต่างๆ อยู่อีกมากมาย โดยเฉพาะในรายละเอียดด้านการทำงานที่ต้องรอบคอบและระมัดระวังทุกฝีเก้าและทุกการเคลื่อนไหว ในขณะที่พายุฝนก็ยังกระหน่ำลงมาอย่างไม่กริ่งเกรงใจเพิ่มพูนระดับน้ำให้เวลาในการปฏิบัติภารกิจสุดหินนี้เหลือน้อยลงทุกทีๆ
สิ่งที่วิเศษมากๆ ในสารคดีเรื่องนี้ก็คือ ผู้กำกับทั้งสองเลือกที่จะเล่าโดยจับเนื้อหาเรื่องราวหลักไปที่อาสาสมัครนักดำน้ำในถ้ำจากประเทศอังกฤษสองราย ผู้ค้นพบทีมหมูป่า ณ เนินนมสาวเป็นคนแรก และมีส่วนสำคัญในการลำเลียงพวกเขาออกมาสู่ปากถ้ำยาวหลายกิโลเมตรทีละคนละคน ซึ่งวีรบุรุษทั้งสองนี้ก็คือคุณ ริค สแตนตัน (Rick Stanton) และ จอห์น โวแลนเธน (John Volanthen) ผู้เดินทางมาถึงเชียงรายสถานที่เกิดเหตุด้วยชุดเสื้อยืดกางเกงขาสั้นรองเท้าแตะดูไม่ต่างจากนักท่องเที่ยวฝรั่งขี้นกปราศจากมาดหรือบารมีแห่งความเป็นฮีโร่ใดๆ
สิ่งที่พวกเขามีติดตัวมาคือทักษะอันจัดเจนในการมุดดำไปตามช่องหลืบของโถงถ้ำใต้น้ำ ที่ไม่ว่าช่องทางจะยากลำบากปราบเซียนอย่างไร พวกเขาก็สามารถทะลุผ่านไปได้โดยไม่ต้องกริ่งเกรงอันตราย ตลอดความยาวของสารคดีเราจึงได้เห็นวิธีคิดวิธีการทำงานของวีรบุรุษไร้มาดสองท่านนี้ที่ต้องร่วมวางแผนปฏิบัติงานกับหน่วยงานอื่นๆ อย่างรัดกุม ผ่านฉากจำลองของการดำน้ำในถ้ำ การสัมภาษณ์ในลักษณะพูดหน้ากล้อง (talking heads) และการเล่าประวัติความเป็นมาเป็นไปของพวกเขาและเพื่อนร่วมทีมว่า จากเด็กนักเรียนหลังห้อง ไม่เข้าสังคม และอ่อนด้อยด้านการเล่นกีฬาเป็นทีม พวกเขากลับกลายมาเป็นนักดำน้ำในถ้ำมือหนึ่งอันดับต้นของโลกได้อย่างไร จนทำให้พวกเขาได้กลายเป็นบุคคลที่สำคัญมากที่สุดในปฏิบัติการที่แทบจะหาหนทางความสำเร็จไม่ได้ครั้งนี้
เนื้อหา the rescue
วันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2561 นับเป็นจุดเริ่มต้นของปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัยครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่ง เมื่อทีมนักฟุตบอลเยาวชนและผู้ช่วยผู้ฝึกสอนรวม 13 ชีวิตหายตัวไปในถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน ตำบลโป่งผา อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ภารกิจในครั้งนี้โด่งดังและได้รับการจับตามองจากคนทั่วโลก รวมไปถึงผู้คนจากหลากหลายสัญชาติที่เข้าร่วมปฏิบัติการในครั้งนิ้
หลังจากใช้เวลาเกือบ 3 สัปดาห์ในการกู้ภัย ทีมกู้ภัยได้ช่วยชีวิตทั้ง 13 คนได้ออกมาเป็นผลสำเร็จ ท่ามกลางความยินดีจากผู้คนทั่วโลก ภารกิจในครั้งนี้ได้เป็นเหตุการณ์ในหน้าประวัติศาสตร์ กลายเป็นกรณีศึกษาด้านการกู้ภัย และได้รับการถ่ายทอดลงในสื่อภาพยนตร์, สารคดีต่างๆ มากมาย the rescue netflix
เวลาผ่านไปเกือบ 4 ปี ผู้ชมชาวไทยเพิ่งได้มีโอกาสรับชมสารคดีเรื่อง The Rescue ภารกิจกู้ภัย ซึ่งเป็นสารคดีที่บอกเล่าเบื้องลึกเบื้องหลังของปฏิบัติการค้นหา และ กู้ภัยในครั้งนี้โดยทีมงานจาก National Geographic ผู้ผลิตสารคดีระดับโลก โดยใช้ทีมงานผู้สร้างจากภาพยนตร์สารคดี Free Solo สารคดีดีกรีรางวัลออสการ์เกี่ยวกับนักปีนเขาสูงท้าความตายด้วยมือเปล่าที่ได้เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ของไทยมาแล้ว โดยเริ่มมีการเปิดตัวสารคดีนี้ครั้งแรกในปี 2021 ที่ผ่านมา
เรื่องราวที่สร้างมาจากเรื่องจริง the rescue
เราต้องไม่ลืมว่าในช่วงเวลาเกือบ 3 สัปดาห์ที่เหตุการณ์จริงเกิดขึ้น คนทั่วไปจะได้รับรู้รายละเอียดที่เกิดขึ้นผ่านทางหน้าสื่อ และ ได้รับข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการกู้ภัยที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่ต้นจนจบมาก่อน และ ต่างรู้กันว่าเด็ก ๆ กับโค้ชที่ทุกคนต่างมีชีวิตรอดในตอนท้าย ซึ่งทั้งหมดดูเหมือนจะเป็นข้อมูลที่คนทั่วไป (จากมุมมองภายนอก) ต่างรู้อยู่แล้ว
และ เพื่อแก้เกมจากเส้นเรื่องที่ทุกคนคาดเดาได้อยู่แล้ว สารคดีนี้จึงเลือกเล่า ‘รายละเอียด’ (ที่อาจจะหาฟังหรือรับชมได้ยากยิ่ง) ผ่านการสัมภาษณ์จากบรรดานักดำน้ำในถ้ำที่ได้ใช้ทักษะเฉพาะทางอันเก่งกาจที่ไม่มีใครเหมือน ฝ่าฝันอุปสรรคที่เหมือนจะไม่มีความหวังจนพบตัวเด็ก ๆ ในถ้ำได้สำเร็จ ร่วมกับคำสัมภาษณ์จากทีมงานที่มีส่วนช่วยเหลือสนับสนุนทางด้านต่าง ๆ และ ภาพฟุตเทจจากเหตุการณ์จริง ซึ่งภาพตามหน้าสื่อที่เราเห็นทั่ว ๆ ไปมักจะตัดทอนการนำเสนอมาไม่กี่ช่วง แต่ในสารคดีครั้งนี้คือการนำภาพฟุตเทจจากเหตุการณ์จริงในแทบจะทุกขั้นตอนการช่วยเหลือตั้งแต่ต้นจนจบ ซึ่งผู้ชมหลายคนอาจจะเพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก ออกมาร้อยเรียงเป็นสารคดีความยาวเกือบ 2 ชั่วโมง ได้อย่างน่าติดตาม the rescue national geographic
รีวิว กู้ภัยถ้ำหลวง the rescue
รีวิว the Rescue สารคดีเรื่องนี้ได้ชูโรงนักดำน้ำในถ้ำชาวอังกฤษที่ถือเป็นหัวหอกสำคัญในภารกิจครั้งนี้อย่าง ริก สแตนตัน (Rick Stanton) และ จอห์น โวลันเดน (John Volanthen) ที่เข้ามาบอกเล่าถึงภารกิจการค้นหาเด็ก ๆ ซึ่งถือเป็นส่วนสำคัญในครึ่งแรกของภาพยนตร์ โดยกว่าจะค้นพบเด็ก ๆ นักดำน้ำในถ้ำทั้งสองคนได้ถ่ายทอดความลึกลับ ความตื่นเต้น รวมไปถึงความน่ากลัวของการดำน้ำในถ้ำหลวง (และหมดหวังในบางช่วง) ของพวกเขา ไปได้อย่างมากแล้ว
ก่อนที่ครึ่งหลังของภาพยนตร์ จะเป็นช่วงการดำเนินภารกิจของทีม “นักดำน้ำในถ้ำที่เก่งที่สุดในโลก” ที่จะต้องท้าทายทุกขีดจำกัดของตัวเอง โดยเฉพาะ Richard Harris ซึ่งชีวิตจริงเป็นวิสัญญีแพทย์ชาวออสเตรเลียที่ต้องมาดูแลเรื่องการวางยาสลบให้กับเด็ก ๆ ทีมหมูป่า โดยการวางยาสลบ รวมไปถึงการดำน้ำในถ้ำที่ก่อนหน้านี้ดูเป็นเรื่องง่าย ๆ สำหรับเขา แต่การวางยาสลบบรรดาเด็ก ๆ ให้หลับตลอดเกือบ 2 ชั่วโมง พร้อมกับการพาเด็กที่หมดสติอยู่ดำน้ำไปในถ้ำพร้อมกับตัวเองซึ่งอาจจะทำให้เด็ก ๆ ทั้งหมดเสียชีวิตระหว่างนำตัวออกมา ถือเป็นเรื่องที่เสี่ยงอันตรายอย่างยิ่ง (ถึงขั้นวางแผนหลบหนีการจับกุมจากทางการไทยหากภารกิจนี้ไม่สำเร็จ) รวมถึงสมาชิกนักดำน้ำที่ถ้ำที่เก่งที่สุดในโลกคนอื่น ๆ ที่ต้องช่วยกันดำน้ำในถ้ำพาเด็ก ๆ ออกมาโดยวิธีเดียวกันต่างก็เผชิญกับความกลัวเช่นเดียวกันนี้ สิ่งเหล่านี้ถูกถ่ายทอดออกมาให้ภาพจริง เสียงจริง คำบอกเล่าจากบุคคลจริง (รวมกับการแสดงจำลองเหตุการณ์บางส่วน) และ ได้กลายเป็นเอกลักษณ์ที่น่าติดตามของสารคดีเรื่องนี้เป็นอย่างยิ่ง the rescue movie
บทสรุป the rescue
นอกเหนือจากบรรดานักดำน้ำ ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ลืมที่จะกล่าวถึงบรรดาผู้ที่มีส่วนช่วยเหลือในเหตุการณ์ครั้งนี้ในทุกส่วน ซึ่งทำให้เราได้รู้ว่าภารกิจครั้งนี้ประสบความสำเร็จจากทักษะความร่วมมือของผู้ที่มีใจพร้อมจะช่วยเหลือ เปรียบเสมือนจิ๊กซอว์ชิ้นเล็กชิ้นน้อยที่ต่อรวมออกมาเป็นภาพแห่งความสำเร็จ และสารคดีมีการเล่ารายละเอียดเหตุการณ์ที่เสริมให้สารคดีเรื่องนี้มีมิติมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นความเชื่อเรื่องของครูบาบุญชุ่มของคนไทย การทำงานในแบบราชการไทยระหว่างดำเนินภารกิจช่วยเหลือ (ซึ่งสารคดีเรื่องนี้เลือกที่จะพูดถึง แต่ไม่ได้ไปในเชิงลบเสียทีเดียว) ความรักของนักดำน้ำ ริก สแตนสัน ซึ่งเกิดขึ้นไม่นานก่อนภารกิจจะเริ่มขึ้น ก็มีส่วนเซอร์ไพร์สผู้ชม (ชาวไทย) ได้นิดๆ และ เรื่องราวของ “จ่าแซม” นาวาตรีสมาน กุนัน ที่ได้สละชีพในภารกิจในครั้งนี้ สารคดีเรื่องนี้ก็ได้ให้พื้นที่ในการพูดถึงมากพอสมควร และ นั่นทำให้เรื่องราวของจ่าแซมผู้เสียสละในครั้งแรกเป็นที่รับรู้ของผู้ชมทั่วโลก
หากจะสกัดถึงแนวคิดที่ได้จากภาพยนตร์สารคดีเรื่องนี้ ผู้เขียนมองว่าเป็นเรื่องของพยายามที่จะทำลายทุกขีดจำกัด และ การที่เหตุการณ์ช่วยชีวิตนี้ “ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน” ไม่ได้หมายความว่ามัน “เป็นไปไม่ได้” และ หากเรามีแผนรับมือที่ชัดเจนร่วมกับแนวทางการบริหารจัดการความเสี่ยงที่เป็นรูปธรรม พร้อมไปกับการปฏิบัติการอย่างรัดกุม เมื่อรวมกับทักษะเฉพาะทางของคนที่มีใจช่วยเหลือ และ จิตใจที่มุ่งมั่นไม่ยอมแพ้ ปาฏิหาริย์แห่งชีวิตย่อมเกิดขึ้นได้เสมอ the rescue (2021)
The Rescue จึงเป็นสารคดีที่มีความเป็นมนุษย์อันน่าชื่นชม แสดงพลังศักยภาพของมนุษย์ที่สามารถเอาชนะสิ่งที่แทบจะหาความเป็นไปไม่ได้ และ กลายเป็นความสำเร็จอันน่าปีติยินดีในที่สุด