รีวิว ซามาริทัน
หนังไทยใหม่ล่าสุด ออกอากาศแล้ววันนี้ที่ Prime video สำหรับหนังฮีโร่สายบู๊ ยอดนักบู๊ในยุคหนึ่งที่แม้จะโรยราแต่ก็ยังมีผลงานแนวแอ็กชันให้ได้ชมไม่ขาดอย่างล่าสุดคือ ‘Rambo: Last Blood’ (2019) ยิ่งพอหายจากจอไปหลายปีเช่นนี้ การกลับมาเลยน่าสนใจทุกครั้ง แถมยังเป็นหนังพลอตซูเปอร์ฮีโรวัยเกษียณอายุในยุคที่หนังฮีโรครองเมืองเช่นนี้ก็ยิ่งน่าสนใจ ดูหนังออนไลน์ ดูหนังฟรี
ส ปอย หนัง หนังซูเปอร์ฮีโร่ Amazon Prime Video นำแสดงโดย ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน ทำมาจากคอมมิคของค่าย Mythos เล่าเรื่องราวของหนุ่มน้อยที่หลงไหลในเรื่องราวเล่าขานเกี่ยวกับฮีโร่เหนือมนุษย์ของเมืองที่หายตัวไปหลายสิบปี จากศึกครั้งสุดท้ายที่เขาต้องสู้กับแฝดน้องของตัวเอง ก่อนที่เขาจะพบความลับว่าชายแก่ในอพาร์ทเมนต์ฝั่งตรงข้ามคือฮีโร่คนนั้น ดูหนังฟรี ดูหนังออนไลน์
รีวิว ซามาริทัน
รีวิว ซามาริทัน หนังเป็นผลงานการกำกับของ จูเลียส เอเวอรี (Julius Avery) ที่เคยมีผลงานเด่นแบบโหดเข้มในหนังซอมบี้นาซีเรื่อง ‘Overlord’ (2018) ซึ่งแม้จะไม่ได้ขึ้นหิ้งแต่ก็น่าจับตามองให้ติดตามผลงานต่อไม่น้อย ยิ่งเรื่องนี้ได้มือเขียนบทอย่าง บราจี เอฟ. ชูต (Bragi F. Schut) ที่เคยมีผลงานอย่าง ‘Escape Room’ ทั้ง 2 ภาค รวมถึงทีวีซีรีส์แฟรนไชส์ ‘Ninjago’ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเขาเป็นมือเขียนบทที่มีไอเดียที่ชวนติดตาม ก็ถือว่าน่าสนใจทีเดียวในการจับคู่กันครั้งนี้
หนังเดินเรื่องผ่านสายตาของเด็กชายที่ชื่อ แซม นำแสดงโดยเจ้าหนู เจวอน ‘วอนนา’ วอลตัน (Javon ‘Wanna’ Walton) จาก ‘The Umbrella Academy’ ซึ่งเขาคลั่งใคล้ในเรื่องเล่าของสองพี่น้องยอดมนุษย์ฝาแฝดนาม ซามาริทัน และ เนเมซิส จนนำไปสู่การแอบติดตามคนเก็บขยะชรานามว่า โจ ที่น่าสงสัยว่าคือซามาริทันในอดีต
คือเอาจริง ๆ ถ้าให้พูดตามตรง และ ต้องขออนุญาตหยิบมาเปรียบเทียบกับจักรวาลหนังซูเปอร์ฮีโร่ในปัจจุบันนี้ Samaritan ก็ถือหนังฮีโร่ที่นำเอาองค์ประกอบเด่น ๆ ของหนังจากทางฝั่งมาร์เวล และ ดีซีมายำรวมผสมกันเป็นหม้อเดียว ที่รสชาติอาจจะฝาด ๆ ไม่ค่อยแซบถึงทรวงสักเท่าไหร่ แต่ก็เห็นถึงกิมมิก และ ความพยายามเป็นอย่างดี หนังใส่โทนความดาร์ก และ ดราม่าสไตล์หนังฝั่งดีซีเข้าไป มีการใช้ปมอาชญากรรมหม่น ๆ กับบรรยากาศอึมครึมเข้าไปใช้
ในขณะเดียวกันนั้น ก็หยิบเอาความโดดเด่นของฮีโร่บางตัวจากฝั่งมาร์เวลเข้าไปเป็นองค์ประกอบเสริมต่าง ๆ ให้กับตัวละครซูเปอร์ฮีโร่ของหนัง ทั้งพื้นเพ และ พลังเหนือมนุษย์ต่าง ๆ รวมทั้งลีลาการต่อสู้ และ อาวุธข้างกาย ก็แอบจะได้แรงบันดาลใจ และ ใช้จินตนาการในการประกอบรวมร่างกันเข้าไป กลั่นกรองออกมาเป็นฮีโร่ที่ชื่อ ซามาริทัน ที่ถึงจะเสียดายที่หนังเรื่องนี้่นั้น เรากลับยังไม่ทันได้มีโอกาสได้ทำความรู้จัก และ มักคุ้นกับการเป็นตัวเขาผู้นี้สักเท่าไหร่ เพราะอะไร ๆ ก็ดูล้น และ เบาเบางไปหมด
เรื่องย่อ
Samaritan เป็นเรื่องราวของ แซม เด็กชายวัย 13 ปี ที่กำลังหมกมุ่นอยู่กับการหาตัวตนของซูเปอร์ฮีโร่ของเมืองแกรนิตซิตี้ ที่ถูกเล่าขานต่อมากันหลายปี อย่าง ซามาริทัน และ เมื่อเขาได้สังเกต และ รวบรวมทฤษฎีต่าง ๆ ก็พบว่า โจ สมิธ คนเก็บขยะวัยดึกที่พักอยู่อะพาร์ตเมนต์ฝั่งตรงข้าม เข้าข่ายที่ทำให้แซมสงสัยว่าเขาคนนี้จะเป็นฮีโร่ที่สาบสูญไปหลังจากเหตุความสูญเสียเมื่อ 20 กว่าปีก่อน และ บัดนี้เมืองที่เริ่มเน่าเฟะด้วยอาชญากรรมเพิ่มขึ้นทุกวัน ๆ มันยิ่งผลักดันทำให้แซมมีแพสชั่นที่อยากจะปลุกพลังให้ ซามาริทัน กลับมาผงาด และ จัดแจงเมืองนี้ให้สะอาดน่าอยู่ยิ่งขึ้น ซา มาริ ทัน พากย์ ไทย
ความรู้สึก/ความประทับใจ
โดยรวมมันมีฉากที่โชว์พลังของซามาริทันเล็ก ๆ ได้อย่างสนุกน่าสนใจตลอดเรื่อง ตั้งแต่ฉากเปิดตัวจริงที่โดนรถชนไม่ตายในเทรลเลอร์จะเห็นว่าแทบเป็นอมตะฟื้นตัวได้ แต่ก็สร้างจุดอ่อนของฮีโร่ตัวนี้ให้เห็นแต่แรกเลยว่าพลังอมตะมีจุดอ่อนยังไง และ ก็ใช้มันเชื่อมต่อกับเรื่องราวของค้อนที่สร้างมาเพื่อทำลายซามาริทันได้อีก ทำให้ตัวร้ายได้ครอบครอง และ ก็มีความสามารถฆ่าซามาริทันได้อีก โดยมีระเบิด EM ที่ทำลายระบบไฟฟ้ามาเป็นอาวุธหลักของตัวร้ายที่ใช้หลายฉากเลย แล้วก็จัดเต็มกับฉากสุดท้ายที่โชว์ให้เห็นว่าซามาริทันในโหมดบ้าคลั่งร้ายกาจแค่ไหน โดยมีเซอร์ไพรส์เล็ก ๆ แต่แอบว้าวพอสมควรกับจุดนี้ เสียแค่ว่าตัวเรื่องไม่ได้ใช้ประโยชน์จากตรงนี้ต่อไปมากอย่างที่คิด แล้วก็จบแบบไม่ทิ้งท้ายไว้ต่อเลยอีกต่างหาก (ในการ์ตูนก็เหมือนจบแค่นี้)
หนังยังพึ่งพิงจุดพลิกผันเพื่อขยายธีมของมันอย่างมากเกินไป และ ดันพลาดด้วยที่ฝืนพยายามในการซ่อนบางอย่างมากเกินพอดีจนกลายเป็นพิรุธให้คนดูเกิดคาดเดาได้ทัน ทำให้พลังในตอนเฉลยปมบางอย่างไม่ทำงานอย่างที่คิด และแทนที่จะหนังจะใช้งานเพื่อเล่นต่อไปทางดราม่าให้หนักขึ้น ปรากฎหนังก็ทิ้งดราม่าที่อุตส่าห์สร้างมาแล้วไปเล่นทางหนังแอ็กชันเสียแทนทั้งที่ปมความรู้สึกชัดแย้งระหว่างพระเอก และ ตัวร้ายนั้นดูน่าสนใจทีเดียว เหมือนจะรีบเพื่อไปสู่ฉากจบที่คิดไว้ว่าจะเป็นบทสรุปที่เท่สุด ๆ แต่มันไว และ ง่ายไปหน่อย
ตัวเรื่องมีมุมมองที่ค่อนข้างดูเรียลมากว่าโลกนี้ไม่ควรมีใครมาทำตัวเป็นซูเปอร์ฮีโร่ ซึ่งเหตุผลในเรื่องก็ถือว่าสมเหตุผลเลย เพียงแต่มันไม่ได้ใหม่นักในยุคที่มีฮีโร่สายดาร์คฉีกกรอบไปมากมายแล้วเช่นกัน อย่างเดอะบอย หรือแม้แต่แบทแมนเวอร์ชั่นโนแลนก็ด้วย พลังอันยิ่งใหญ่กลายเป็นปัญหาให้กับสังคมมากกว่าตัวร้ายที่ทำลายเมืองเสียอีก แต่คอนเซ็ปต์อันนี้มันถูกทำมาให้อยู่ในรูปฮีโร่วัยเกษียณติดดิน ทำงานเก็บขยะไปวัน ๆ หาของมาซ่อมแซมเอาไปขาย ซึ่งดูเข้ากันดีเลย แต่ก็ทำให้สเกลของเรื่องเล็กลง จำกัดวงแคบแค่ในเมืองสมมุติอย่างในเรื่องเท่านั้น ซึ่งทุนสร้างที่น้อยก็มีส่วนด้วยเช่นกัน ซา มาริ ทัน hd
รีวิว ซามาริทัน
รีวิว ซามาริทัน หนังซูเปอร์ฮีโร่ที่ซิลเวสเตอร์เล่นในวัย 76 ปี แล้วก็เป็นค่ายหนัง Balboa Productions ของเขาเองด้วย นี่จึงเป็นโปรเจ็กต์ที่ปลุกปั้นโดยตรงจากซิลเวสเตอร์ โดยได้ Julius Avery เป็นนักเขียนบทภาพยนตร์ และ ผู้กำกับภาพยนตร์ชาวออสเตรเลีย ที่ไม่ได้มีเครชื่อเสียงนักมากำกับเรื่องนี้ แต่โดยรวมก็ถือว่าเป็นผลงานที่โอเคเลยไม่มีข้อตกบกพร่องอะไรมาก แม้จะเป็นหนังทำลงสตรีมมิ่งทุนไม่สูงนักก็ตาม
ในยุคที่หนังแนวนี้เกลื่อนตลาดแล้ว การที่เรื่องนี้จะฉีกออกไปได้ก็ต้องมีพล็อตที่ดีก่อน เรื่องนี้จึงฉีกตัวเองมาเล่าเรื่องของซูเปอร์ฮีโร่วัยชราที่เกษียณตัวเองหลบลี้หนีผู้คนมาอยู่อย่างสันโดษ และไม่พยายามไม่กลับไปเป็นแบบตัวเองในอดีต ซึ่งนี่เป็นความลับสำคัญของเรื่องนี้ว่าทำไม เพราะอะไร แม้ตัวเด็กในเรื่องอย่างแซม (แสดงโดย Javon ‘Wanna’ Walton) จะพยายามอ้อนวอนให้เขากลับมาช่วยเมืองยามที่เกิดวิกฤต แต่โจ หรือ ซามาริทันเองกลับคิดต่างออกไป ซึ่งตัวเรื่องจะค่อย ๆ เผยให้เห็นฉากในอดีตที่เป็นตำนานเล่าขานของเมืองว่าซามาริทันช่วยเหลือชาวเมืองจากตัวร้ายเจเนซิสที่เป็นแฝดน้องมีพลังแบบเดียวกับเขาไว้ได้ ซึ่งเหตุการณ์นี้เองคือจุดพลิกผันชีวิตของโจ และ ก็ทำให้ความคิดเรื่องการเป็นซูเปอร์ฮีโร่คืออะไรที่ผิดพลาดสิ้นดีในมุมของเขา
ดูจากจุดแข็งของหนัง จริงแล้วมันควรขายหน้าหนังว่าจะเล่นดราม่า และ ต้องการขายความเชยโดยตั้งใจเพื่อชูช่วงเวลาที่ทอดยาว และ เน้นไปที่ธีมความขัดแย้งเชิงความคิดเรื่องดีชั่วผ่านตัวพระเอก และ ตัวร้าย อาจจะเล่าผ่านสายตาเด็กเพื่อให้หนังดูซอฟต์ลง แต่ที่มันพลาดคือหน้าหนังมันคลุมเครือแบบเหยียมแคมเรือฝั่งซูเปอร์ฮีโรแบบตลาดนิยมด้วยฉากระเบิดตึกเผาเมืองไว้ด้วยนั่นเอง หนัง ซา มาริ ทัน
สรุป
นอกจากฉากแอ็กชั่นแล้ว ตัวเรื่องก็ยังมีมุมดราม่าความสัมพันธ์ของแซมกับโจ ที่ตัวแซมเองเป็นเด็กน้อยที่มีความคิดอยากช่วยแม่หาเงิน แต่ก็เลือกทางผิดหลายครั้ง ตัวเรื่องทำให้เห็นว่าโจเองไม่พยายามเข้าไปช่วยมาก แต่ก็ปรามเมื่อแซมล้ำเส้นบางอย่างไป และ การช่วยเหลือเล็ก ๆ น้อย ๆ นี่เองที่ค่อย ๆ เปลี่ยนให้แซมค่อย ๆ เลือกเส้นทางที่ถูกต้องเองในภายหลัง และ โจเองก็มีความผูกพันธ์กับแซมมากขึ้น เป็นดราม่าเล็ก ๆ ที่สอดแทรกตลอดเรื่องแบบค่อย ๆ ซึมและ ทำได้ดีพอตัวเลยทีเดียว
ถือเป็นหนังซูเปอร์ฮีโร่ลงสตรีมมิ่งที่ดูลงตัวในขอบเขตงบจำกัดกับการโชว์พลังที่ไม่ต้องพึ่ง CG อะไรมาก แต่ก็ทำให้คนดูสนุกไปกับเรื่องได้พอสมควร และ การได้เห็นซิลเวสเตอร์ในวัยนี้มาเล่นบทซูเปอร์ฮีโร่ก็เป็นอะไรที่น่าทึ่งมาก ใครเป็นแฟนนี่ห้ามพลาดเลยครับ
พอได้มาดูหนังเรื่องนี้เต็ม ๆ ก็พอจะได้คำตอบแล้วว่า เพราะเหตุใด เอ็มจีเอ็ม และ อะแมซอน ถึงตัดสินใจย้ายหนังเรื่องนี้มาฉายในรูปแบบสตรีมมิ่งออนไลน์แทนเข้าโรงฉาย เพราะนี่น่าจะเป็นการตอบโจทย์ได้ค่อนข้างดีกว่านั้นเอง สเกลของหนังเรื่องนี้อาจจะค่อนข้างเชยไปที่จะเป็นหนังฉายโรง ท่ามกลางการแข่งขันของหนังฮีโร่ที่ยิ่งยกระดับมาตรฐานสูงขึ้นเรื่อย ๆ นี่อาจจะยังไม่ใช่เป็นหนังฮีโร่เรื่องที่ดี แต่ก็มันไม่ใช่หนังที่แย่อะไรหรอกนะ ซา มาริ ทัน เรื่อง ย่อ
ข้อมูลเกี่ยวกับหนัง Samaritan
ประเภท: แอคชั่น / แฟนตาซี / ดราม่า
ผู้กำกับ: จูเลียส เอเวอรี่
นำแสดงโดย: ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน, จาวอน วอลตัน, พิลู แอสเบ็ค
ความยาว: 102 นาที
กำหนดฉายในไทย: 26 สิงหาคม 2022 (ที่ Prime Video)