รีวิว กัดกระชากเกรียน
หนังผีไทย สวัสดีครับสำหรับผม ผู้ที่ดูหนังผีหนังซอมบี้ฝรั่งมามากมาย แล้วอยากจะลองรับชมหนังซอมบี้ในบ้านเราบ้าง แต่ดูไปดูมา ทำไมถึงกลายเป็นได้ฟีล “บ้านผีปอป” ไปซะงั้น หนัง “กัดกระชากเกรียน” ของ พชร์ อานนท์ (พี่เขาเปลี่ยนวิธีสะกดชื่อตัวเอง อีกล่ะ) ซึ่งไม่ต้องเดาทางหนัง ก็คงจะพอคาดแนวของพี่เขาออกอยู่ เอาเป็นว่า เรามาฟังเรื่องย่อ “กัดกระชากเกรียน” กันดีกว่า
ส ปอย หนัง การเล่าเรื่องก็เป็นไปมาตรฐานของผู้กำกับอย่างพี่ พชร์ อานนท์ อยู่แล้วครับ แฟน ๆ ภาพยนตร์จะหวังมากกับบทภาพยนตร์ การเล่าเรื่อง ตรรกะ และ เหตุผลใด ๆ ไม่ได้เลย เพราะทุกสิ่งทุกอย่างยังคงเลวร้ายพังทลายเป็นปกติ คุณจะเห็นตัวละครวิ่งวนไปวนมาในเรื่องบ่อยมาก แม้ในช่วงแรก ๆ จะพอดูสนุกอยู่เพราะมีฉากแอ็คชั่นอยู่พอสมควร แต่พักหลัง ๆ มาจะเริ่มน่าเบื่อเพราะเนื้อเรื่องก็ไม่ได้คืบหน้าไปไหนเท่าไหร่ แถมวิธีการต่อสู้ก็เดิม ๆ และ เราจะต้องเจอแบบนี้ไปทั้งเรื่อง ดูหนังออนไลน์ ดูหนังฟรี
รีวิว กัดกระชากเกรียน
รีวิว กัดกระชากเกรียน หนังเรื่องนี้คือ ผลงานการกำกับของผู้กำกับที่มีผลงานเข้าโรงต่อเนื่องมากที่สุดในประเทศไทย นามของเขาเป็นที่รู้จักกว่าผู้กำกับที่ได้รางวัลสุพรรณหงส์ปีไหน ๆ เสียอีก ผลงานของเขาก็ใช่เล่นนะครับ เรียกว่าเป็นคนที่ทำหนังเฉลี่ยต่อปีน่าจะมากสุดแล้ว คือในปีหนึ่ง ๆ ต้องมีหนังแกในโรงเฉลี่ย 2 เรื่องเลยทีเดียว
ผู้กำกับหนังไทยยุคนี้ยังมีใครทำได้บ้างล่ะ (ปี 2557 แกพีคสุดล่อไป 4 เรื่อง หลังจากนั้นก็ 2 เรื่องบ้าง 3 เรื่องบ้าง) ผลงานแกมีทั้ง แนวจริงจังอย่าง 18 ฝนคนอันตราย, เพื่อน…กูรักมึงว่ะ, ตายโหง จนแนวเอาฮาด้วยตลกรุ่นใหญ่อย่าง ปล้นนะยะ, หอแต๋วแตก เอาฮาด้วยตลกรุ่นใหม่เอาใจวัยรุ่นอย่าง หลวงพี่แจ๊ส 4G, 888 แรงทะลุนรก และ เอามันด้วยนักแสดงวัยรุ่นอย่าง แต๋วเตะตีนระเบิด, ม.6/5 ปากหมาท้าผี, วัยเป้งง นักเลงขาสั้น
คือพี่แกเป็นคนที่ได้ทดลองทำหนังหลากแนวที่สุดคนหนึ่งแล้วล่ะนะ บทจึงเป็นแกนหลักที่ต้องทำหน้าที่คุมนักแสดงให้เล่นไปแบบที่หนังสามารถจบได้ จนบางทีเราก็แปลกใจว่า เฮ้ยไม่มีใครฉุกใจทักตรรกะในหนังเรื่องนี้ตอนแสดงบ้างเลยเหรอ? หนังเปิดเรื่องมาแบบไม่ปูพื้นเพตัวละครอะไรทั้งสิ้น ให้ตัวละครอยากเข้าไปในโรงพยาบาลร้างแถวบ้านที่ถูกทหารสั่งปิด แล้วก็ค่อย ๆ เพิ่มรายละเอียดเข้าไป
ส่วนพวกนักแสดงก็เหมือนเล่นแบบเหมือนไม่เคยได้อ่านบทหนังทั้งเล่ม ถ่ายวันแรกก็อ่านบทหน้าแรกเอา ไม่ต้องไปสนผลกระทบหลังจากนั้นค่อยไปว่ากันวันที่ถ่าย ทำให้การแสดงล้นผิดกับตรรกะที่ใส่มาภายหลังอย่างสิ้นเชิง เปรียบไปมันเลยเหมือนคนอยากยิงปืนขึ้นฟ้าเพราะแค่อยากยิง ยิงแล้วก็รัว ๆ แบบไม่พักหายใจ (โดยก็ยังไม่รู้ว่าทำไปทำไม) จากนั้นค่อยเผยว่าอ่อมันมีงานแต่งนะเฮ้ยเขาเลยยิงปืนฉลอง แล้วหนังก็ยิงปืนต่อไปแบบไม่สนใจว่าลูกกระสุนจะไปกระทบบทส่วนไหนต่อไปอีก ไว้มันลงหัวใครค่อยว่ากัน
เรื่องย่อ
เรื่องเริ่มขึ้นที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งซึ่งถูกรัฐบาลสั่งปิดตายพร้อมให้ทหารเข้ามาดูแลชนิดที่เรียกว่าไม่ให้ใครเข้าใครออกเด็ดขาด เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก 1 ปีผ่านไป โดยที่ไม่มีคนนอกรู้แน่ชัดว่าเกิดอะไรขึ้นที่ โรงพยาบาลแห่งนี้ และ ทำไมถึงต้องโดนปิด ทำให้นักเรียนมัธยมปลายกลุ่มหนึ่ง ต้องการบุกไปพิสูจน์ความจริง
โดยหนึ่งในนักเรียนกลุ่มนี้ พ่อกับแม่เขาก็ได้เสียชีวิตอย่างปริศนาที่โรงพยาบาลแห่งนี้ในช่วงเวลาที่โรงพยาบาลโดนสั่งปิดด้วย เมื่อพวกเขาบุกเข้าไปพิสูจน์ความจริงจึงพบว่า โรงพยาบาลแห่งนี้ ล้วนเต็มไปด้วย ซอมบี้ ผีดิบอาละวาด กัดกินคน พวกเขาจึงหนีตาย กันอลหม่าน
เท่านั้นยังไม่พอ เขายังโทรไปเรียก “แลมโบ” ซึ่งเป็นพี่ชายของเขา และ พี่ชายก็พากลุ่มเพื่อน ๆ ตามกันมาเพื่อช่วยน้องชายที่ติดอยู่ในวงล้อมซอมบี้ที่ โรงพยาบาล แต่การณ์กลับกลายเป็นว่า แทนที่จะมาช่วยน้องชาย และ เพื่อน ๆ กลับกลายเป็นต้องมาร่วมวิ่งหนี และ ต่อสู้กับซอมบี้ที่หิวโหยอีก ท้ายสุด มีบางคนที่โดนซอมบี้กัด บางคนรอด สรุปไปดูเองว่ารอดมากี่คน และ จบได้หักมุม (แบบที่โคตรจะไม่เข้าท่า) ได้ขนาดไหน กัดกระชากเกรียน เต็มเรื่อง
ความรู้สึกหลังรับชม
ใครคิดว่าหนังมันไร้สาระไป อยากดูหนังแบบมีสัญญะ ต้องตีความนัยยะซ่อน มันก็ดูให้เป็นแบบนั้นได้นะ เริ่มตั้งแต่บทบาททหารที่ใส่มาตั้งแต่ต้นเรื่อง คือเข้ามาควบคุมสถานการณ์ผิดปกติของโรคระบาดในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งโดยที่คนป่วย และ ไม่ป่วยไม่ทันตั้งตัว และ ยังไม่มีคำอธิบายให้มากนักด้วย ก่อนจะกลายเป็นว่าทหารที่น่าจะช่วยเหลือทุกคน ก็ยังติดเชื้อ และ กลายเป็นสิ่งที่พวกเขาอยากกำจัดทิ้งเสียเอง
สุดท้ายตัวหัวหน้าทหารก็คอร์รัปชั่นสะสมวัคซีนบรรเทาอาการติดเชื้อไว้เองคนเดียว อารมณ์อิงไปการเมืองประเทศหนึ่งได้นะ คุ้น ๆ มั้ยล่ะอีกส่วนที่ดูแย่ และ น่าเสียดายมากคือภาพยนตร์เรื่องนี้ใช้นักแสดงได้เปลืองสุด ๆ แถมคาแรคเตอร์แต่ละคนก็ไม่ได้เด่นชัดมากว่าเขาเป็นคนอย่างไร นิสัยอย่างไร เดี๋ยวก็เป็นคนดี หันมาอีกทีก็ร้ายละ
เรื่องสุดท้ายที่แย่ก็คือ ‘ความดราม่า’ ที่จู่ ๆ ก็ใส่เข้ามาโดยไม่ได้เกริ่นอะไรไว้สักนิดตั้งแต่แรก มันยิ่งทำให้เรื่องขาดความน่าเชื่อถือ และ อารมณ์ร่วม บางทีก็ทำเป็นหนังสู้กันทั้งเรื่อง เอาตัวรอดล้ำ ๆ ไปเลยก็ได้ บางฉาก บางความดราม่าก็ดูไม่มีความจำเป็นจะต้องใส่เข้ามาเท่าไหร่นักนะ มันดูฝืนเกินไป กัดกระชากเกรียน ภาค 2 เต็ม เรื่อง
รีวิว กัดกระชากเกรียน
รีวิว กัดกระชากเกรียน เชื่อว่าแฟนสายโหดของพชร์น่าจะเป็นกลุ่มที่ชื่นชอบหนังอย่าง หอแต๋วแตก และ หลวงพี่แจ๊ส 4G ดังนั้นขอแสดงความเสียใจด้วยฮะ เพราะกัดกระชากเกรียนเป็นหนังกลุ่ม ม.6/5ฯ และ วัยเป้งฯ เสียมากกว่า ทั้งที่ตั้งแต่แกมาใช้ชื่อค่าย มูฟวี่ฮีโร่ นี่ หนังแกจะมาสายหนังพี่แจ๊สทั้งนั้นเลย แถมที่สำคัญคือหนังเรื่องนี้ดูแกตั้งใจพิถีพิถันมาก (ตามศักยภาพการทำหนังดีของแกจะอำนวยนะ)
ดังนั้นเสียงฮาเลยจะพร่อง แต่สถานการณ์ไล่บี้กลุ่มตัวเอกนี่ไม่มีให้พักหายใจเลย (อันนี้วัดจากแฟนคลับแกที่นั่งใกล้ ๆ ผมนะ สังเกตเสียงหัวเราะ และ การสะดุ้งของพวกเธอประกอบการให้คุณค่าหนังเฮียพชร์ – คือไม่สามารถใช้เกณฑ์ตัวเองวัดให้จริง ๆ) เรียกว่าเป็นหนังซอมบี้ที่เทียบเรื่องจังหวะพยายามกดดันคนดูอย่างเดียวนี่พอ ๆ กับ Train to Busan ของเกาหลีเลยทีเดียว เหนือคาดมาก
ด้วยความตั้งใจจะจริงจังแต่ฝืนธรรมชาติรั่ว ๆ ของตัวหนังเองไม่ไหว หนังเลยจริงจังแบบกะพร่องกะแพร่ง คือมีทั้งดราม่าระหว่างตัวละครในแบบเพื่อน/พี่น้อง/พ่อแม่ลูก/คนรัก มีทั้งปริศนาความน่าสงสัยของเบื้องหลังทหารที่เข้ามาควบคุม มีทั้งความรั่วของตัวละครและซอมบี้ กัดกระชากเกรียน ภาค2
บทสรุป
โปรดัคชั่นโดยรวมก็เป็นไปตามมาตรฐานภาพยนตร์ของพี่ พชร์ อานนท์ อีกแหละครับ แต่สำหรับผมแล้วนี่เป็นเรื่องดี เพราะมาตรฐานเรื่องนี้ของพี่แกถือว่าสูงมาก การจัดฉาก จัดแสง การถ่ายทำ แต่งหน้าทำผม(โดยเฉพาะของซอมบี้)ล้วนแล้วแต่เป็นงานที่ถือว่าทำออกมาได้จัดเต็ม ใส่ใจรายละเอียด และ เนียนตาดี งานวิชวลเอฟเฟ็คก็ใช่ย่อย ถ้าไม่เพ่งกันจริง ๆ ไม่มีทางจับผิดได้นะนี่
สรุปโดยภาพรวมแล้ว กัดกระชากเกรียน จึงเป็นภาพยนตร์ของพี่ พชร์ อานนท์ ที่ยังคงมีปัญหาเรื่องบทภาพยนตร์ การเล่าเรื่อง ตรรกะ และ เหตุผลอยู่เช่นเคย มีหลายฉาก และ หลายตัวละครที่รู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องใส่มาก็ได้ แต่มีดีมากด้านงานโปรดัคชั่น การถ่ายทำ การจัดฉาก แต่งหน้าทำผม และ วิชวลเอฟเฟ็ค
ถ้าคุณชอบภาพยนตร์ที่ไม่ต้องคิดมากใด ๆ เอะอะก็สู้กัน วิ่งหนีกัน จัดเต็มกันเลือดสาดกันทั้งเรื่อง มีงานโปรดัคชั่นที่ดี ผมก็แนะนำเรื่องนี้เลย แต่ถ้าคุณต้องการภาพยนตร์ที่จริงจังกับการเล่าเรื่อง บทภาพยนตร์ เรื่องของเหตุผล และ ตรรกะต่าง ๆ และ ตัวละครที่น่าจดจำ หลีกหนีเรื่องนี้ให้ไกลจะดีที่สุดครับผม YouTube ดูหนังฟรี