รีวิว อโยธยา มหาละลวย

รีวิว อโยธยา มหาละลวย

วันนี้ผมจะมาแนะนำหนังไทยดี ๆ อีกหนึ่งเรื่องที่หยิบพล็อตเรื่อง หนังไทยใหม่ล่าสุด เกี่ยวกับ ยุคสมัยมาเล่น ซึ่งหากใครยุค อโยธยา ก็อย่าพลาดเลยครับ ส ปอย หนัง เป็นเรื่องราวในยุคสมัยแห่งการผลัดเปลี่ยนรัชสมัย อโยธยาตกอยู่ในความวุ่นวาย และ การเข้ามาของต่างชาติ ดูหนังออนไลน์ ดูหนังฟรี ยังมีตำนานความรักที่ไม่เคยถูกบอกเล่าที่ไหน เมื่อ เรียวสึ (เจมส์-จิรายุ ตั้งศรีสุข) ชายหนุ่มผู้ออกตามหาชาติกำเนิดอันคลุมเครือ ดูหนังฟรี ดูหนังออนไลน์ โดยมีคมดาบ และ คาถาเป็นศาสตราคู่กาย ระหว่างทางเขาได้พบรักกับ ออสร้อย (โบว์ – เมลดา สุศรี) หญิงงามที่กำลังจะตกไปเป็นคู่ครองของ ชายสูงศักดิ์ผู้เป็นหน่อเชื้อชนชั้นสูงในราชสำนัก ผู้เพียบพร้อมทั้งอำนาจ บริวาร ศิลปะการต่อสู้ และ มนต์อาคมระดับพระกาฬ ทำให้เรียวสึต้องต่อสู้ด้วยทั้งชีวิต และ ศักดิ์ศรี เพื่อให้ได้มาซึ่งรักแท้หนึ่งเดียว และ คำตอบว่าเขาคือใคร

ประเภท: แอคชั่น / โรแมนติก
ผู้กำกับ: ภวัต พนังคศิริ
นำแสดงโดย: จิรายุ ตั้งศรีสุข, เมลดา สุศรี, สพล อัศวมั่นคง
กำหนดฉายในไทย: 2 ธันวาคม 2021 (ในโรงภาพยนตร์)

รีวิว อโยธยา มหาละลวย

รีวิว อโยธยา มหาละลวย

รีวิว อโยธยา มหาละลวย อโยธยา มหาละลวย เป็นผลงานการกำกับของ อโยธยามหาละลวย ฟรี “ใหม่-ภวัต พนังคศิริ” ที่เคยเนรมิตละครดัง “บุพเพสันนิวาส” ออกมาได้ดังทั่วบ้านทั่วเมือง เขาพยายามหยิบเอาเสน่ห์ และ สูตรเดิมที่เคยทำได้สำเร็จมาใช้กับเรื่องนี้ แต่กลับได้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง หนังยังคงไร้เสน่ห์ และ การเล่าเรื่องยังค่อนข้างไร้ทิศทางชัดเจน แก่นเรื่องน่าสนใจแต่ยังไม่น่าติดตาม ด้านงานสร้างต่าง ๆ ก็ยังดูพยายาม และ พบเห็นความไม่ละเอียดอยู่ในหลายจุด

ภาพยนตร์ อโยธยา มหาละลวย นำแสดงโดย เจมส์-จิรายุ ตั้งศรีสุข และ โบว์-เมลดา สุศรี ภาพยนตร์รัก-แอ็กชั่นแฟนตาซี เต็มไปด้วยกลิ่นไอความรัก และ มนต์คาถา ที่มีฉากหลังเป็นความขัดแย้งในสมัยอยุธยา เล่าเรื่องราว “สมัยอโยธยา” ในรัชสมัยของสมเด็จพระนารายณ์ ที่มีการเจริญสัมพันธไมตรีกับต่างชาติมากเป็นพิเศษ ทำให้อโยธยาช่วงนั้นมีความหลากหลายด้านเชื้อชาติ ศาสนา และ วัฒนธรรม

เรื่องย่อ

รีวิว อโยธยา มหาละลวย

อโยธยา มหาละลวย เป็นเรื่องราวของ อโยธยามหาละลวย นักแสดง เรียวสึ ชายหนุ่มที่มีความเป็นมาคลุมเครือ เขาได้รับการเลี้ยงดูโดยหลวงตา ซึ่งสอนให้เขาได้เรียนรู้วิชาการต่อสู้ และ เวทมนตร์คาถา เพื่อใช้ป้องกันตัวในวันข้างหน้า ในวันที่เขาต้องการตามหาแม่ และ ตามหานางในดวงใจ ออสายสร้อย หลวงตาได้มอบหมายให้ ทอง เดินทางไปพร้อมกันเพื่อคอยดูแลกัน และ กัน ระหว่างการเดินทางพวกเขา ตกกระไดพลอยโจนต้องช่วย 2 คู่หู อาซิม และ จีนล้ง ที่ก่อเรื่องไว้ที่โรงชำเราชาย ที่นี่เองทำให้ เรียวสึ ได้พบกับ ออสร้อย อีกครั้ง

แต่ทว่า ด้วยความงามของ ออสร้อย เป็นที่ต้องตาของ ขวัญ ซึ่งเป็นบุตรชายของออกญาคชบาล ซึ่งเป็นผู้มีอำนาจมากที่สุดในอโยธยา ทำให้เรียวสึพยายามทำทุกทาง เพื่อชิงตัวออสร้อยคืนมา วิทยายุทธที่ เรียวสึ สั่งสมมา อาจไม่เพียงพอ บางครั้งอาจต้องพึ่งพามนตร์คาถาที่เรียวสึเรียนรู้ทั้งชีวิต เพื่อจะช่วงชิงตัว และ หัวใจออสร้อย กลับมาเป็นของเขาได้อีกครั้ง

ความรู้สึกหลังรับชม

รีวิว อโยธยา มหาละลวย

ในที่สุดแล้ว อโยธยา มหาละลวย อ โยธ ยา มหาละลวย เต็มเรื่อง ก็ยังคงเผชิญหน้ากับปัญหาเดิม ๆ ของหนังไทยที่ประสบกันอยู่แทบจะทุกเรื่อง หลายองค์ประกอบของหนังที่ยังทำได้ไม่ถึง ออกมากลายเป็นหนังที่ไปได้ไม่สุดสักทาง ถึงแม้ว่าคอนเซ็ปต์ของหนังค่อนข้างน่าสนใจ พร้อมกับปูเรื่องเชิงประวัติศาสตร์ได้อย่างใคร่รู้ แต่เมื่อนำมาร้อยเรียง และ ถ่ายทอดออกเป็นหนังเกือบ 2 ชั่วโมง มันกลายเป็นเพียงหนังที่มีรสชาติจืดชืด ที่พอกินได้แต่ไม่ค่อยอร่อยเลย

บทหนังยังคงเป็นปัญหาหนักของหนังเรื่องนี้ โครงเรื่องวางเอาไว้ได้ค่อนข้างน่าสนใจทีเดียว ถึงจะมีเนื้อหาจริง ๆ อยู่เพียงหยิบมือเดียว แต่ด้วยบทที่ค่อนข้างอ่อนเป็นทุนเดิม มาผนวกกับการร้อยเรียงเล่าเรื่องแบบตัดแปะไปตลอดทาง จึงทำให้ อโยธยา มหาละลวย แทบจะไม่มีอะไรให้น่าจดจำสักเท่าไหร่ การเล่าเรื่องของหนังค่อนข้างแบบราบ ปูเรื่องได้ค่อนข้างเชยและช้า หนังฉายผ่านไปจะเป็นชั่วโมงก็รู้สึกเหมือนกับเคลื่อนที่ไปได้แค่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น และที่ชวนสะพรึงที่สุดก็คือฉากต่อเพลงกัน ส่วนตัวคิดว่าถ้าหากว่าไม่มีก็น่าจะดีกว่า

และเมื่อดูหนังจนจบลงแล้ว ก็ได้พบว่าคอนเซ็ปต์ที่ดีของหนังมีเนื้อหาอยู่เพียงนิดเดียว กลายเป็นว่านี่คือเมนูอาหารที่ใส่น้ำมาเสียเยอะ แต่ให้ปริมาณชิ้นเนื้อมาเพียงหยิบมือ อีกทั้งทิศทางของหนังก็ดูช่างสับสน เพราะรู้ว่าหนังจะอยากเป็นอะไร อยากจะเป็นหนังรักก็อยาก อยากจะเป็นหนังตลกก็ยิงมุก อยากจะเป็นหนังบู๊ก็ใส่ฉากสู้กันแบบจังหวะแห้ง ๆ เข้ามาแบบดาดดื่นเหลือเกิน

อีกหนึ่งสิ่งที่รู้สึกเสียดายในตัวหนัง อโยธยา มหาละลวย เป็นอย่างมากก็คือ การใช้คาแรกเตอร์ตัวละครของเรื่องได้ว่าไม่คุ้มค่า ต้องยอมรับว่าหนังได้นักแสดง และ มีตัวละครน่าสนใจเยอะมาก แต่กลับล้มเหลวในการนำเสนอทั้งหมด บทหนังที่ไม่ได้มีการส่งเสริมสักคาแรกเตอร์เดียว อารมณ์เหมือนดูละครที่ยังไม่รีบขับเสน่ห์ตัวละครออกมาใช่ โดยที่อาจจะลืมไปว่านี่เป็นหนัง ที่มีเวลาจำกัดในการนำเสนอ

ในขณะที่แก๊งแบดบอยอโยธยาที๋โปรโมตออกมาได้ดูน่าสนใจ แต่ปรากฏว่าในหนังนั้นช่างจืดชืด “ภีม ธนบดี” ที่มารับบทร้ายหลักของเรื่อง แต่เพราะบทหนังที่ไม่ได้ส่งเสริมตัวละครนี้เลยสักนิด จึงกลายเป็นตัวร้ายที่ไร้มิติและไม่น่าจดจำเลยสักนิด จะมีดีหน่อยก็คงเป็น “ฟลุ๊คจ์ พงศ์ภัทร์” ที่บทไม่ได้ทำร้ายมากนัก แต่หากลับฝีมือการแสดงต่อไปอีกนิดหน่อย คาดว่าเขาน่าจะมีศักยภาพที่ดีอีกคนเลย “เกร เกรกัวร์” กับ “โดม เพชรธำรงชัย” ที่ใส่เพิ่มเข้ามาให้หวังจะเป็นตัวโจ๊กแต่กลับไม่โจ๊กสักนิด

รีวิว อโยธยา มหาละลวย

รีวิว อโยธยา มหาละลวย ด้วยความที่ตัวภาพยนตร์โปรยมาว่า นี่คือภาพยนตร์รักสายมู เรื่องราวของ ‘เรียวสึ’ สายเลือดยามาดะคนสุดท้ายที่ต้องออกเดินทางพร้อมกับเพื่อนสนิทอย่าง ‘ทอง’ เพื่อตามหาแม่ และ นางอันเป็นที่รัก พร้อมกับหนีการตามล่าของพญาคชบาล ซึ่งค่อนข้างขัดกับสิ่งที่ ‘เจมส์จิ’ นักแสดงนำของเรื่อง ขายเราเอาไว้ในการสัมภาษณ์ว่านี่คือภาพยนตร์ที่เล่าเรื่องราวชีวิตของวัยรุ่นจริง ๆ ในกรุงศรีอยุธยา

เป็นความขัดแย้งที่ทำให้เราสงสัยมาตลอดว่า แล้วความเป็นวัยรุ่นมันจะไปอยู่ตรงไหนในเส้นเรื่องที่ดูตึงเครียดแบบนี้กัน

จนกระทั่งมีโอกาสได้ดูภาพยนตร์ ซึ่งมันทำให้พบว่าจริง ๆ แล้วเราแทบไม่รู้อะไรเกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่องนี้เลย และ ยิ่งทำให้เรารู้สึกคาดไม่ถึง ชอบใจ และ เพลิดเพลินกับการก้าวออกจากกรอบของหนังพีเรียดไทยในครั้งนี้มากขึ้นไปอีก

อย่างที่บอกว่าตัวอย่าง และ ข้อมูลของภาพยนตร์ดูเน้นไปที่การใช้เวทมนตร์ และ แอ็กชันเป็นหลัก แต่ส่วนตัวแล้วเราค่อนข้างเห็นด้วยกับเจมส์จิ ที่บอกว่านี่คือภาพยนตร์รักวัยรุ่น ที่ตีแผ่ชีวิตของวัยรุ่นจริง ๆ ในสมัยอยุธยา

ด้วยความที่โลเคชันหลักของเรื่องคือโรงชำเรา หรือผับบาร์ในปัจจุบันที่ชายหนุ่ม และ หญิงสาวไปสังสรรค์กัน มันจึงทำให้เราเห็นคาแรกเตอร์ความก๋ากั่น และ ห้าวหาญของหนุ่มสาววัยแรกรุ่นได้อย่างเด่นชัด ตั้งแต่การสักยันต์อาคมที่เป็นเหมือนแก็ดเจ็ตของเด็กในยุคนั้น การยกพวกตีกันในร้านเหล้า หรือที่เราต้องยกนิ้วให้เลย ก็คือการร้องฉ่อยจีบกันระว่างแขกของโรงชำเรา และ เหล่าอี๋จี (นักร้อง นางรำในโรงชำเรา) เป็นการร้องแบบด้นสดที่ไม่เคยมีภาพยนตร์หรือละครเรื่องไหนหยิบมาให้เราเห็นชัด ๆ แบบนี้ และ ยังทำให้เรารู้สึกว้าวกับสกิลแบบนี้มากจริง ๆ

ยังไม่รวมถึงคอสตูมของนักแสดงหญิงที่สุดแซ่บ ด้วยความที่นางเอกอย่างออสร้อยมีอาชีพเป็นอี๋จีในโรงชำเรา ทำให้เสื้อผ้าของเธอ และ เพื่อน ๆ จะมีความเซ็กซี่ และ มีสีสันมากกว่าการแต่งตัวของตัวละครทั่วไปที่เราเคยเห็นกันมาในภาพยนตร์หรือละครย้อนยุคอื่น ๆ

บทสรุป

โดยภาพรวมแล้ว ถือว่าเป็นหนังที่ค่อนข้างน่าผิดหวัง อโยธยามหาละลวย ดูได้ที่ไหน ได้แคสติ้งนักแสดงที่ดี แต่ปัญหาหลักอย่างบทหนังยังคอยฉุดรั้งหนังทั้งเรื่องเอาไว้ได้อย่างเสียดาย ความไม่ชัดเจนในการเล่าเรื่อง อยากจะเป็นหนังรักก็เป็น อยากเป็นหนังบู๊ก็เป็น

เมื่อนำมาผสมรวมกันแล้วว่า อโยธยา มหาละลวย จึงเป็นเพียงหนังพีเรียดที่หยิบเอาความเป็นละครในหลายเรื่อง ๆ มายำเอาไว้ ถึงจะพยายามชูคอนเซ็ปต์ในเรื่องคาถาความเชื่อต่าง ๆ แต่ก็ใส่เข้ามาแบบไม่ได้เน้นจริงจังอะไร จึงทำให้หลาย ๆ อย่างในหนังเรื่องนี้ยังโคลงเคลงไปมาตลอดทางที่ลัดเลาะริมฝั่ง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *