รีวิว ดิว ไปด้วยกันนะ

รีวิว ดิว ไปด้วยกันนะ

สวัสดีครับนี่นับเป็นหนังไทยน้ำดีอีกเรื่อง หนังไทยใหม่ล่าสุด ซึ่งหนังไทยดี ๆ นั้นไม่ได้มีมากนัก แต่สำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ต่างออกไป ส ปอย หนัง สำหรับใครที่ชอบก็คือชอบมากไม่ชอบก็เกลียดเลยแหละ มีภาพยนตร์หนึ่งเรื่องที่เรารู้สึกว่าเข้ากับช่วงเวลาเหงา ๆ หนาว ๆ ปลายปีมาก ๆ นั่นคือ ดิวไปด้วยกันนะ อีกหนึ่งผลงานของ ดูหนังออนไลน์ มะเดี่ยว ชูเกียรติ ผู้กำกับฝีมือดีเจ้าของผลงานที่ยังคงอยู่ในใจเราตลอดกาลอย่างรักแห่งสยาม ดูหนังฟรี กลับมาขยี้บรรยากาศปลายปีด้วยภาพยนตร์ที่จะต้องฝังอยู่ในใจผู้ชมกันอีกครั้ง เรื่องราวเกิดขึ้น ณ ปางน้อย ปี พ.ศ. 2539 ของเด็กหนุ่มวัย 17 ปี สองคนที่ชื่อ ดิวกับภพ ที่เป็นคนใกล้ชิดกัน แต่ก็ต้องปกปิดไว้เนื่องจากสังคม ณ ตอนนั้นยังไม่ยอมรับกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ จนเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ทั้งคู่ต้องแยกจากกัน จนหลังจากนั้นอีก 23 ปีถัดมา ในปี พ.ศ. 2562 ภพได้กลับมายังปางน้อยอีกครั้ง

รีวิว ดิว ไปด้วยกันนะ

รีวิว ดิว ไปด้วยกันนะ

รีวิว ดิว ไปด้วยกันนะ ดิว ไปด้วยกันนะ ดิวไปด้วยกันนะ pantip (อังกฤษ: Dew) เป็นภาพยนตร์ไทยแนวโรแมนติก ออกฉายวันที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2562 กำกับ และ เขียนบทโดยชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล สร้างโดยซีเจ เมเจอร์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ นำแสดงโดยศุกลวัฒน์ คณารศ, ญารินดา บุนนาค, ภวัต จิตต์สว่างดี, ศดานนท์ ดุรงคเวโรจน์, ดริสา การพจน์, อาภาศิริ นิติพน และ วราพรรณ หงุ่ยตระกูล

ดิว ไปด้วยกันนะ เป็นหนังที่ดัดแปลงมาจากภาพภาพยนตร์เกาหลีเรื่อง Bungee Jumping of Their Own โดยในช่วงแรกจะย้อนกลับไปเล่าในช่วงปี 90 โดยนำเสนอประเด็นเพศที่สามที่เป็นที่รังเกียจของผู้คนในยุคนั้น จึงทำให้ ดิว และ ภพ ที่มีความสัมพันธ์เกินเพื่อนต้องปกปิดตัวตนของตัวเองเอาไว้ แต่ถึงคนรอบข้างจะมองอย่างไรก็ไม่สามารถเก็บกดความรักที่ทั้งสองคนมีให้กันได้

จนนำไปสู่จุดเปลี่ยนเรื่องราวที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ส่วนเรื่องราวจะเป็นอย่างไรก็เป็นหน้าที่ของท่านผู้ชมที่ต้องไปดูเอง…

หลังจากที่ภาพยนตร์ลาโรงไปสักพักด้วยกระแสตอบรับที่อาจจะมีทั้งติ และ ชม และ ค่อย ๆ จางไป แต่กระแสของ ดิว ไปด้วยกันนะ ก็เกิดขึ้นอีกครั้งหลังจากที่ Netflix นำกลับมาฉาย ความสัมพันธ์อันสลับซับซ้อนของตัวละคร ‘ภพ’ และ ‘ดิว’ จึงเป็นที่พูดถึงอีกครั้ง บทความนี้จึงอยากเจาะลึกเรื่องของความรักความสัมพันธ์ตั้งแต่จุดเริ่มต้น พัฒนาการ จุดจบว่ามีประเด็นหรือสัญญะอะไรให้ตีความหรือถอดรหัส

รวมถึงคำถามต่อนิยามของความรักอันหนักอึ้งที่ผู้สร้างโยนไว้ให้กับสังคม

เรื่องย่อ

รีวิว ดิว ไปด้วยกันนะ

DEW เป็นภาพยนตร์แนว โรแมนติก-ดราม่า ว่าด้วย “ถ้าคุณมีโอกาสครั้งที่สองในการแก้ไขสิ่งที่เคยทำผิดกับคนที่คุณรัก คุณจะกลับไปเปลี่ยนแปลงมัน หรือจะปล่อยมันไป”

หลังจากล้มเหลวจากการทำธุรกิจส่วนตัว “ภพ” ชายอายุ 37 ปี จำเป็นต้องย้ายกลับไปที่บ้านเกิดของเขาที่ ‘ปางน้อย’ กับ “อร” ภรรยาผู้แสนดีที่คอยช่วยเหลือเขาเสมอ กว่า 20 ปี ที่ต้องไปเรียนต่างเมืองเพราะไม่สามารถขัดขืนคำสั่งของพ่อแม่ตัวเองที่มีภูมิหลังแบบจีนอันแสนเข้มงวดได้

การกลับมาที่ปางน้อยครั้งนี้ “ภพ” เริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยการทำงานเป็นครูในโรงเรียนที่เขาเคยเรียนมาก่อน แต่ความทรงจำเก่า ๆ จากเมื่อตอนวัยรุ่นที่ลืมไปนานแล้วก็ได้หวนกลับมาสู่ความคิด และ ความรู้สึกของเขาอย่างช้า ๆ โดยเฉพาะความทรงจำเกี่ยวกับอดีตคนรักที่กลับมาทำให้เขาคิดถึงอีกครั้ง ณ ปางน้อยแห่งนี้

เวียร์ ศุกลวัฒน์ คณารศ รับบทนำร่วมด้วย ญารินดา บุนนาค และ ทีมนักแสดงวัยรุ่น โอม ภวัต จิตต์สว่างดี จากซีรีส์ “เขามาเชงเม้งข้าง ๆ หลุมผมครับ” ที่กำลังมาแรง และ นนท์ ศดานนท์ ดุรงคเวโรจน์ , กาฟิวส์ พันธุ์ธัช กันคำ และ ปั๋น ดริสา การพจน์ ทีมนักแสดงหน้าใหม่น่าจับตา ที่จะเปิดตัวด้วยภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นครั้งแรก ที่จะไม่พูดถึงไม่ได้คือการร่วมงานกับนักแสดงรุ่นคุณภาพอย่าง แจง วราพรรณ หงุ่ยตระกูล และ อุ๋ม อาภาศิริ นิติพล ที่จะมาร่วมประชันบทบาทดราม่าซึมลึกในครั้งนี้

ความรู้สึกหลังรับชม

รีวิว ดิว ไปด้วยกันนะ

ด้านนักแสดง ต้องบอกเลยว่านักแสดงทุกคน ดิวไปด้วยกันนะ ช่อง7 ทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างสมบูรณ์แบบมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็น โอม ภวัต จิตต์สว่างดี และ นนท์ ศดานนท์ ดุรงคเวโรจน์ ที่รับบทเป็น “ภพ” กับ “ดิว” ในช่วงวัยรุ่นที่แสดงออกมาได้น่ารัก และ รู้สึกได้ถึงความรักที่จะลุจอจนสาว ๆ

สายจิ้นต้องฟินจิกหมอน ส่วน เวียร์ ศุกลวัฒน์ คณารศ ในบท “ภพ” ในวัยผู้ใหญ่ ก็ถ่ายทอดอารมณ์ความเก็บกด และ รู้สึกผิดของตัวละครภพจนผู้ชมรู้สึกอึดอัดไปด้วย ส่วน ปั๋น ดริสา การพจน์ ก็แสดงออกมาได้น่ารักสมวัยแต่มีความซับซ้อนในตัวเอง

แต่ใช่ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะไม่มีบาดแผล ยังมีหลายจุดที่เรารู้สึกว่าไปได้สุดกว่านี้ เล่าได้มากกว่านี้ และ จะทำให้คนดูผูกพันมากกว่านี้ อย่างความสัมพันธ์ในอดีตของภพ และ ดิวที่น่าจะโดนหั่นออกไปไม่น้อยด้วยความเหมาะสมของเวลา หรือการเล่นกับความเชื่ออย่างการกลับชาติมาเกิด

ซึ่งเอาเข้าจริงแล้วยากมากที่จะทำให้คนเชื่อได้ภายในครึ่งเรื่อง เพราะดูเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก แถมการกระตุ้นตัวละครให้จำเหตุการณ์ต่าง ๆ ได้ก็ดูจงใจมากไปในหลายครั้ง จนทำให้คนที่อินในพาร์ทอดีตมาแบบเรายังรู้สึกขัดนิดหน่อย

รีวิว ดิว ไปด้วยกันนะ

รีวิว ดิว ไปด้วยกันนะ ความกล้าหาญแรกที่มะเดี่ยว ดิวไปด้วยกันนะ เรื่องย่อ เลือกตัดผ่ายกเครื่องบทหนังโดยหยิบยกจุดพีคที่คอหนังต้นฉบับซูฮกมาไว้ในครึ่งแรกแทน ซึ่งแน่นอนว่ามันต้องแลกกับการทิ้งเซอร์ไพร์สที่ Bungee Jumping of Their Own เคยมอบให้คนดู

โดยหนังเปลี่ยนรายละเอียดความรักคู่พระนางต้นฉบับในวัยเรียนมหาวิทยาลัย กลายมาเป็น ดิว กับ ภพ วัยรุ่น ม.ปลายในโรงเรียนชนบทยุค 90 ที่เพลงอัลเธอเนทีฟอย่าง ก่อน ของโมเดิร์นด็อก หรือ ดีเกินไป ของ สไมล์ บัฟฟาโล ถูกนำมาใช้เพื่อเป็นสัญลักษณ์แทนทางเลือกใหม่ ๆ

ทั้งที่สังคมในสมัยนั้นยังใช้คำว่า เบี่ยงเบนทางเพศ และ ใช้กระบวนการทางทหาร และ แพทย์มาใช้บำบัดพฤติกรรมรักร่วมเพศอยู่เลย ซึ่งพอเข้าใจได้ว่าการเซ็ตสถานการณ์ภายใต้การควบคุมของทหารเอย การจำกัดกรอบเรื่องเพศเอย เป็นกลไกของบทหนังที่พยายามบีบบังคับให้ตัวละครไม่สามารถใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันได้

และ แม้เราจะไม่สามารถหาหลักฐานมายืนยันได้ว่าการจำกัดกรอบโลกทัศน์เรื่องเพศในหนังเป็นความจริงสักกี่มากน้อย แต่ในทางกลับกันมันก็ให้ภาพสังคมไทยที่ไร้ประชาธิปไตย หมดสิทธิ์เลือกทางเดินชีวิตตัวเอง

โดยเฉพาะกับเพศทางเลือกอย่าง LGBTQ และ กล่าวอย่างไม่เกินจริงบทหนังของมะเดี่ยวยังละเอียดลออด้วยรายละเอียดด้านชาติพันธุ์ ความเชื่อ ที่ถูกส่งต่อผ่านระบบครอบครัวของทั้ง ดิว และ ภพ

ที่ช่วยทำให้เรื่องราวมีมิติมากกว่าแค่เรื่อง เด็กผู้ชายสองคน มาจิ้นกันแบบผิวเผิน และ ที่สำคัญประเด็นบาดแผลระหว่างทางเติบโตของวัยรุ่นที่มะเดี่ยวเคยปูไว้ตั้งแต่ รักแห่งสยาม เกรียนฟิกชัน หรือตอนแรกของ โฮม ความรัก ความสุข ความทรงจำ ก็ถูกนำมาเน้นย้ำผ่านเรื่องราวของดิว และ ภพจนสามารถเชื่อมต่อเป็นจักรวาลหนังวัยรุ่นของมะเดี่ยวได้อย่างไม่ขัดเขินเลยทีเดียว

บทสรุป

สำหรับใครที่คาดหวังว่าดิวไปด้วยกันนะ ดิวไปด้วยกันนะ ต้นฉบับ จะเป็นหนังชายรักชายคงจะผิดหวังนิดหน่อยด้วยหลายปมที่อยู่ในเรื่อง พาร์ทที่มีทั้งดิว และ ภพในอดีต พาร์ทปัจจุบันที่กลายเป็นภพกับหลิว แต่มันคือหนังรักแบบที่ไม่เลือกเพศ ไม่เลือกวัย เพราะความผิดพลาดในอดีตที่ทำให้ตัวละครเลือกทางที่คิดว่าดีที่สุดในตอนนี้ มุ่งไปกับความรักอย่างเต็มที่เพราะไม่อยากจะสูญเสียไปอีก

หลายประเด็นในเรื่องนี้ทำให้เป็นหนังที่หากชอบก็ชอบไปเลย

แต่ถ้าไม่ชอบก็คงไม่ชอบไปเลยเหมือนกัน จึงเป็นอีกเรื่องที่อยากให้เข้าไปพิสูจน์ด้วยตัวเองว่าเราจะเลือกเชื่อ และ อินไปกับสิ่งที่ภาพยนตร์นำเสนอหรือเปล่านี่อาจไม่ใช่หนังที่ดีที่สุดของ ชูเกียรติ แต่หนังกลับมีภาวะบางอย่างที่ทิ้งตะกอนตกค้างเอาไว้ในความอิหลักอิเหลื่อของมัน และ ร่องรอยเล็กน้อยเหล่านั้นทำให้เราไม่อยากมองข้ามหนังเรื่องนี้ไป

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *