วันนี้เรามี หนังไทยใหม่ล่าสุด ที่กำลังเป็นกระแสดังอย่างเรื่อง สัปเหร่อ หนังในจักรวาลไทบ้านเดอะซีรีส์ที่เราเพิ่งได้ดูหนังในจักรวาลนี้ครั้งแรก ตอนแรกก่อนจะไปดูเราก็แอบเดาว่าหนังเรื่องนี้น่าจะเป็นหนังผีที่น่ากลัว หรือจะเป็นแนวหนังผีแนวตลกๆ กันนะ แต่พอดูแล้วก็รู้สึกว่าเนื้อเรื่องน่าสนใจมากกว่าที่คิดเลยค่ะ และมันทำให้เรารู้สึกประทับใจอยย่างมากในหลายๆฉาก อยากรู้ว่าฉากไหนจะโดนใจ หรือคนกลัวผีจะดูหนังเรื่องนี้ได้หรือไม่? มาติดตามไปอ่านรีวิวข้างล่างนี้ได้เลย! ช่องทางการรับชม ดูหนังฟรีออนไลน์
ภาพยนตร์ลำดับที่ 6 ภาคแยกในจักรวาลไทบ้านเดอะซี่รี่ส์
รีวิวหนัง สัปเหร่อ ผลงานการกำกับของ ต้องเต ธิติ ศรีนวล
หนังไทยบ้านเรื่อง สัปเหร่อ เรื่องนี้เป็นหนังแนวสยองขวัญ-คอมเมดี้ มีกำหนดเข้าฉายวันที่ 5 ตุลาคม 2566 กำกับโดย ฐิติ ศรีนวล (ต้องเต) หนังเรื่องนี้เป็นภาคแยกจากเรื่อง ไทบ้านเดอะซีรีส์
ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังได้รับเสียงชื่นชมในด้านความแปลกใหม่ เพราะเป็นภาพยนตร์สยองขวัญ-ตลกที่ฉีกแนวจากภาพยนตร์สยองขวัญทั่วไป
ภาพยนตร์เรื่องนี้มีฉากตลกขำขันแทรกอยู่ตลอดเรื่อง ความเศร้า และความสะพรึงกลัว ผู้ชมที่ชื่นชอบภาพยนตร์สยองขวัญผสมคอมเมดี้จึงไม่ควรพลาดภาพยนตร์เรื่องนี้เลยค่ะ
รายชื่อนักแสดงสัปเหร่อ
เซียง รับบทโดย ตาต้า ชาติชาย ชินศรี
จำลอด รับบทโดย ด้งเด้ง ณัฐวุฒิ แสนยบุตร
เจิด รับบทโดย เน็ค นฤพล ใยอิ้ม
เฮียป่อง รับบทโดย เตเต้ สมชาย สายอุทา
สัปเหร่อศักดิ์ รับบทโดย อาจารย์อัจฉริยะ ศรีทา
ใบข้าว รับบทโดย แพมมี่ บัวติก
ปริม รับบทโดย ปริม ชมภูมาตย์ ผ่องสนาม
มืด รับบทโดย เฟิส์ส ธนาดล บัวระบัติ
หมอแจ็ค รับบทโดย นารา นาราภัทร งดงาม
ป้าคำตัน รับบทโดย คำตัน คำตัน จินดามล
เรื่องย่อ สัปเหร่อ
ณ หมู่บ้านโนนคูณ จังหวัดศรีสะเกษ เจิด (นฤพล ใยยิ้ม) เด็กหนุ่มวัยยี่สิบห้าที่เพิ่งเรียนนิติศาสตร์จบมาหมาดๆ เขาเดินทางกลับมาอยู่บ้านระหว่างรอสอบเพื่อจะเป็นทนายอย่างที่ตั้งใจไว้ จึงได้มาพบกับ แจ็ค (นาราภัทร งดงาม) พี่ชายที่เป็นหมอ
และศักดิ์ (อัจฉริยะ ศรีทา) พ่อของเขาที่มีอาชีพเป็นสัปเหร่อ เลี้ยงชีพอยู่กับการจัดการศพให้กับคนในหมู่บ้าน และคาดหวังให้ลูกชายสานต่ออาชีพนี้แม้จะรู้ว่าเจิดนั้นกลัวผีอย่างมากก็ตาม
เรื่องใหญ่มันเกิดขึ้นในหมู่บ้าน เซียง (ชาติชาย ชินศรี) ที่ตอนนี้ก็คบหากันอยู่กับ ปริม (ชมภูมาตย์ ผ่องสนาม) แต่ความที่เขาเคยอกหักและพยายามบวชเพื่อลืมแฟนเก่าอย่าง ใบข้าว (สุธิดา บัวติก) สุดท้ายก็ต้องมาเจ็บปวดเมื่อรู้ข่าวว่าใบข้าวผูกคอตาย
หลังทำใจไม่ได้ ก็พยายามทุกวิถีทางเพื่อจะได้พบเจอกับใบข้าวอีกครั้งในโลกหลังความตาย จนมาปรึกษากับสัปเหร่อศักดิ์ จึงได้มาเรียนรู้พิธีถอดจิตเพื่อพบเจอกับคนที่ตายไปแล้วในโลกแห่งความฝัน แลกกับที่เซียงต้องมาช่วยเจิดทำงานสัปเหร่อ
การดำเนินเรื่อง
เอาจริงๆ แม้จะยังศึกษาจักรวาลไทยบ้านไม่ครบก็ตาม ไม่มีปัญหาในการทำความเข้าใจเรื่องราวเลย แม้จะเพิ่งมาใหม่ก็สามารถติดตามได้ไม่สับสน
หนังเลือกที่จะบอกสิ่งที่ต้องการบอก บอกสิ่งที่ควรพูด และทำให้คุณรู้ว่าเรื่องราวจะดำเนินไปในทิศทางไหน? แต่พอจะรู้สึกว่า นี่เป็นเส้นทางที่แตกต่างจากหนังเรื่องอื่นในจักรวาล
หนังเรื่องนี้คืออะไร เรื่องราวเกี่ยวกับตัวละครที่พูดสำเนียงอีสาน ผ่านเรื่องราวที่เกิดขึ้นในหมู่บ้านเดียว บทสนทนาสุดฮาด้วยมุขตลกและการแสดงที่เป็นธรรมชาติ แต่สลับกับฉากสยองขวัญที่ไม่ขนลุกแต่ก็เฮฮาไปพร้อมๆ กัน
ระหว่างทาง ภาพยนตร์จะสลับโหมดไปมา ทั้งความฮาและความสยองขวัญ ซึ่งถ้าพูดจากมุมมองของหนังสยองขวัญ หนังก็ตัดต่อและใช้จังหวะของหนังผีได้ดี ถ้าไม่ใช่เพราะเล่นตลกก็คงจะกลัวกันไปข้างหนึ่ง ขณะที่ เซียง กำลังค้นหาวิธีที่จะสงบสติอารมณ์ เขาก็บังเอิญเจอใบข้าวใบหนึ่ง
ภาพยนตร์เรื่องนี้พาผู้ชมไปหลอนอย่างอ่อนโยน และผีใบข้าวที่ออกมาปรากฏแก่คนในหมู่บ้านทั่วทุกแห่ง อีกส่วนหนึ่งผู้ชมจะได้เห็นความอยากรู้อยากเห็นของเชิด ผู้กลัวผีแต่ไม่อินกับวิถีชีวิตอีสานเรื่องคนตายจริงๆ
บทสนทนาบางส่วนอธิบายที่มาของแนวคิดและความเชื่อ และบางส่วนก็แทรกซึมเข้าไปในบทภาพยนตร์ที่เล่าถึงพิธีกรรมต่างๆ ของชาวอีสาน
ระหว่างทาง เราอาจเห็นรอยแผลเล็กๆ อย่างเช่นซีจีที่ไม่ค่อยเนียนอยู่บ้าง แต่ด้วยการแสดงที่เป็นธรรมชาติ ต่อมุกตลกกันได้อย่างเข้าขา จึงสร้างเสียงหัวเราะได้ตลอดทาง
ความน่าสนใจของภาพยนตร์
ความน่าสนใจของภาพยนตร์เรื่องที่ 6 ในจักรวาลไทยบ้าน นอกจากจะนำเสนอความเป็นภาคอีสานในหลายๆ มุมมองแล้ว มันบอกถึงการที่ใครบางคนยึดถือบางสิ่งที่สูญหายไปแล้ว การรู้จักปล่อยวางเป็นแนวคิดที่ตรงที่สุดที่จะเยียวยาจิตใจของผู้ที่เศร้าโศกและไม่สามารถยอมรับ
ความสูญเสียได้โดยเร็วที่สุด แม้ในขณะที่รับชมเราอาจรู้สึกว่าความฟุ่มเฟือยของ เซียง สำหรับใบข้าวนั้นเกินจริงและไม่น่าเชื่อมากนัก แต่พอเห็นความจริงใจในการสื่อสาร นอกจากจะเล่าเรื่องการจัดงานศพของชาวพุทธแล้ว ยังขยายไปสู่ศาสนาอื่นอีกด้วย พูดถึงสัตว์เลี้ยงอย่างเดียวคงไม่พอ ส่วนเรื่องขำขันกับพระภิกษุและเทวดาเขาก็ไม่มีข้อยกเว้น
ไม่มีใครไม่เคยประสบกับการลาจาก เพราะทุกคนต่างก็เริ่มต้นความสัมพันธ์ด้วยการพบเจอด้วยกันทั้งนั้น แถมไม่ว่าใคร สังขารก็ไม่มีวันเที่ยง สักวันก็ต้องมีเจ็บ มีป่วย และมีจากด้วยกันทั้งนั้น ดูหนังก็นึกถึงตัวเอง คงต้องจบชีวิตไปในสักวัน ไม่จำเป็นต้องย่านดอกความตายน่ะ
การค้นหาวิธีเข้าสู่ชีวิตหลังความตายมีความน่าสนใจในการนำเสนอโลกที่แตกต่าง ใช้ไอเดียที่เรียบง่าย เช่น อย่างเอาเก้าอี้ไปผูกให้เหมือนลอยอยู่กลางอากาศ หรือบางครั้งก็ใช้แสงเหมือนศิลปะการจัดวาง ในแง่การก่อสร้างก็ไม่ยากเลย แต่มันก็น่าสนใจมาก
มันจับความตื่นเต้นของเราไม่น้อย เป็นการนำเสนอที่ชวนให้นึกถึงหนังสยองขวัญเก่าๆ ของฮ่องกงที่เล่นโดยใช้ธูปหนึ่งชั่วโมง แสงเหนือจริง เทคนิคดิบๆ เรียบๆ แต่น่ากลัวสุดๆ ผสมผสานกับสไตล์ไทยแบบชนบทมันดีจริงๆ ดูความคิดสร้างสรรค์ทั้งหมด
ภาคนี้ทำให้เราคิดมากกับคำว่า Exotic ในบางแง่มุมยังรู้สึกว่าถ้ากลมกล่อมกว่านี้ก็อยากให้ส่งเป็นตัวแทนของประเทศไทยไปนำเสนอยังต่างประเทศด้วย
รีวิวหนัง สัปเหร่อ ความรู้สึกหลังรับชม
ผู้เขียนสารภาพเลยว่าตัดสินใจนานมากว่าจะไปดูไหม เพราะส่วนตัวเป็นคนกลัวผี แค่ชื่อเรื่องก็ขนลุกซู่แล้ว ซึ่งพอได้ไปดูแล้วรู้สึกว่า ผีในเรื่องไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด ไม่ได้มีผีมากมายมาหลอกหลอน แต่สิ่งที่ทำให้เราตกใจบ่อยๆ
เป็นจังหวะ jump scare ที่ใส่มาในหนัง พอได้ยินซาวนด์เริ่มมาก็จะแอบปิดตาไว้ข้างนึง รอจนซาวนด์ jump scare จบซีนก็เปิดตาดูใหม่ 555 แต่สำหรับใครที่ขวัญอ่อนมากๆ หรือตกใจง่าย ขอไม่แนะนำนะ เพราะในหนังมีจังหวะ jump scare ค่อนข้างบ่อย
พล็อตเรื่อง สัปเหร่อ เน้นไปในการเล่าเรื่องราวผ่านมุมมองวิถีประเพณีชาวอีสานกับการทำอาชีพสัปเหร่อ และความเชื่อต่างๆ ที่ถูกตั้งคำถามโดย เจิด และการพิสูจน์ความเชื่อผ่าน เซียง เนื้อเรื่องเหมือนแบ่งเป็นสองเส้นโดยมีจุดร่วมกันคือความเชื่อ
ซึ่งส่วนตัวมองว่าไม่แปลกถ้าบางคนอาจจะไม่อินกับเรื่องราวเหล่านี้ เพราะการเล่าอาจจะไม่ได้สุดโต่งในทุกด้าน แต่สำหรับใครที่เคยมีประสบการณ์ร่วมหรือเคยผ่านเหตุการณ์คล้ายๆ กับที่ตัวละครในเรื่องก็จะช่วยบิ้วให้อินกับเนื้อเรื่องได้มากขึ้น
ในส่วนของนักแสดง อย่างที่บอกไปในช่วงแรกว่าครั้งนี้เป็นครั้งแรกกับการดูหนังในจักรวาลไทบ้านเดอะซีรีส์ ซึ่งดูแล้วรู้สึกว่า นักแสดงทุกคนแสดงเหมือนไม่แสดง
เพราะมีความเป็นธรรมชาติ ดูซื่อๆ ไม่ประดิษฐ์ เหมือนได้มานั่งดูการใช้ชีวิตของกลุ่มเพื่อน ครอบครัว เพื่อนบ้าน ดูแล้วรู้สึกอยากตามกลับไปดูเรื่องก่อนหน้านี้ในจักรวาลเดียวกันเลยย
บทสรุปโดยรวมของภาพยนตร์
ส่วนตัวรู้สึกชอบการเล่าเรื่องราวบางฉากใน สัปเหร่อ เพราะเคยผ่านเหตุการณ์คล้ายๆ กันมา เช่น การสูญเสียคนในครอบครัวแบบกะทันหันไม่ทันได้จากลา อยากมองเห็นวิญญาณของคนที่เสียชีวิต
แต่ไม่เคยได้เห็น ในขณะที่คนรอบตัวต่างบอกว่าเคยเจอ การตั้งคำถามกับความเชื่อ การกระทำในพิธีต่างๆ ในงานศพ พอดูหนังเรื่องนี้ก็เลยรู้สึกอิน และประทับใจเหมือนได้รับคำตอบที่เคยตั้งคำถามไว้ผ่านหนังเรื่องนี้
หนังมีบทสรุปที่ดี มันมีฉากจบที่จบเรื่องราวของเจิดกับพ่อได้ดีมาก ๆ เต็มไปด้วยความเข้าอกเข้าใจ ไม่ได้ทำให้ความจริงมันสวยงามจนเรารู้สึกเอียนแต่อย่างใด
และแม้คาดเดาง่ายไปสักหน่อยแต่ก็ทำให้อยากเชียร์ให้ต้องไปดูในโรงอยู่ดี ยิ่งสำหรับแฟนไทบ้านยิ่งห้ามพลาดเพราะมีการอัปเดตชีวิตของตัวละครหลักแต่ละตัวก่อนเข้าสู่ ‘ไทบ้าน เดอะซีรีส์ 3’ ที่จะมาต่อไปด้วย เป็นหนังไทยที่น่ารับชมแห่งปีจริง ๆ
ข้อมูลภาพยนตร์
ชื่อภาพยนตร์ สัปเหร่อ / The Undertaker
กำกับ ต้องเต ธิติ ศรีนวล (ขยะหน้าต้นไม้)
เขียนบท ธิติ ศรีนวล
แสดงนำ ณัฐวุฒิ แสนยะบุตร, ชาติชาย ชินศรี, สุธิดา บัวติก, นฤพล ใยยิ้ม, อัจฉริยะ ศรีทา
แนว/ประเภท สยองขวัญ, คอมเมดี้
เรท ไทย/น18+
ความยาว 125 นาที
ปี 2023
สัญชาติ ไทย
เข้าฉายในไทย 5 ตุลาคม 2023
ผลิต/จัดจำหน่าย ไทบ้าน สตูดิโอ, เซิ้ง Music, Sa-tun Production, มูฟวี่ พาร์ทเนอร์, ห้างหุ้นส่วนจำกัด ศิริมงคล พร๊อพเพอตี้