รีวิวหนัง รักหนูมั้ย หนังจากจักรวาลไทบ้าน

หนังไทยใหม่ล่าสุด หลังเปิดตัวหนัง ไทบ้านเดอะซีรีส์ เมื่อ 3 ปีที่แล้วคงยากที่จะมองเห็นภาพหนังพูดอีสานที่เอาชีวิต ความรัก และความฝันของวัยรุ่นในตะวันออกเฉียงเหนือมาคลุกเคล้าส่วนผสมทั้งคอมเมดี้ห่าม ๆ ดราม่าเรื่องชีวิต

และโรแมนติกแบบหวานขม พร้อมด้วยนักแสดงนำชายหน้าตาบ้าน ๆ อย่าง ณัฐวุฒิ แสนยะบุตร ในบทจาลอด หนุ่มอีสานบ้าน ๆ ผู้กุมหัวใจสาวสวยจนเกิดเป็นเรื่องรักสามเส้าขึ้น และยังดึงสายตาผู้ชมหนุ่ม ๆ ด้วยสาวสวยดีกรีดาวมหาวิทยาลัย

จากวันนั้นจนถึงพ.ศ.นี้ลำพังจักรวาล ไทบ้านเดอะซีรีส์ก็มีหนังออกมาอย่างต่อเนื่อง (นับเฉพาะหนังในชื่อ ไทบ้านเดอะซีรีส์ก็ 3 เรื่องแล้ว) และล่าสุดก็เพิ่งร่วมงานกับ BNK 48 ในชื่อ ไทบ้าน X BNK48 จากใจผู้สาวคนนี้

ฉายไปตอนต้นปีเป็นการขยับขยายเอาวัฒนธรรมอีสานมาผสมคลุกเคล้ากับวงการไอดอล และไม่นานเกินรอสัปดาห์นี้ช่วงเวลาดีต้นเดือนพฤศจิกายนก็ได้ฤกษ์ที่ รักหนูมั้ย หนังดรามาโรแมนติกฮา ๆ เคล้าน้ำตาและประเด็นหมิ่นเหม่อย่างการท้องในวัยรุ่นได้เข้าฉาย

จากความสนุกบนเตียงชั่วข้ามคืน พลอย (ยีนส์ ภัทร์ธีราภรณ์ สุโพธิ์) สาวไซด์ไลน์เกิดตั้งท้องจากการรับงานครั้งแรกกับ 3 หนุ่มได้แก่ ออฟ (ด้งเด้ง ณัฐวุฒิ แสนยะบุตร) หนุ่มช่างไม้เด็กแนว จอห์น (ต้องเต ธิติ ศรีนวล)

นักศึกษาวิทยาล้ยช่างศิลป์ขี้อาย และ กิว (ตาต้า ชาติชาย ชินศรี) หนุ่มไม่เอาถ่าน เพลย์บอยที่มาอาศัยบ้านจอห์นอยู่ และในระหว่างทางที่พวกเขากำลังหาคำตอบจากผล DNA ว่าใครเป็นพ่อเด็ก การมาถึงของเด็กน้อยและความรักของพวกเขาทั้ง 4 กำลังนิยามความหมายใหม่ของคำว่าครอบครัว ช่องทางการรับชม ดูหนังฟรีออนไลน์

รีวิวหนัง รักหนูมั้ย

เรื่องย่อ รักหนูมั้ย

เรื่องย่อ รักหนูมั้ย เป็นเรื่องของวัยรุ่นคนรุ่นใหม่ที่เข้ามาอยู่ในเมือง เพื่อมาเรียนหนังสือ โดยมีฉากหลังเป็นจังหวัดศรีสะเกษ ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนพ้องชายหนุ่ม 3 คน กับหญิงบริการที่บังเอิญตั้งครรภ์และให้กำเนิดเด็กน้อยออกมา

โดยที่ไม่รู้ว่าใครกันแน่ที่เป็นพ่อแท้ๆ ของเด็กคนนี้ แต่ด้วยความชุลมุนกับสิ่งที่ไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจมาก่อน 3 ชาย 1 หญิง และเด็กน้อยอีกคน ก่อกำเนิดเป็นครอบครัวที่แสนอบอุ่น พร้อมฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ ไปด้วยกัน

รีวิวหนัง รักหนูมั้ย

ข้อมูลภาพยนตร์

ประเภท : Comedy / Drama / Family
ผู้กำกับ : ภูวเนตร สีชมภู
บทภาพยนตร์ : ภูวเนตร สีชมภู
กำกับภาพ : ชลัทชล เอี่ยงธนรัตน์
ลำดับภาพ : นาวา ภิญโญยาง, ภูวเนตร สีชมภู
ดนตรีประกอบ : อาสนัย อาตม์สกุล, บุญญฤทธิ์ จันทยุคันโท, ปวีณวัช อินทร์วัน
ควบคุมงานสร้าง : ศชัช บุญโกสุมภ์
อำนวยการสร้าง : สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ, คมกฤช พิพัฒน์ภานุกูล
บริษัทผู้สร้าง : เซิ้ง โปรดักชั่น, Thi Baan Studio, บริษัท มูฟวี่ พาร์ทเนอร์ จำกัด
วันที่เข้าฉาย : 5 พฤศจิกายน 2563
ระบบถ่ายทำ : ภาพยนตร์สี เสียง ดิจิทัล-DCP

ความน่าสนใจของภาพยนตร์

หนึ่งในข้อมูลสำคัญที่ควรรู้ก่อนไปดู รักหนูมั้ย หนังไทยนอกจักรวาลไทบ้านเดอะซีรีส์ ที่ชื่อสุดแสนจะเรียบง่ายและจริงใจ คือนี่เป็นงานเปิดซิงกำกับหนังเรื่องแรกของ โน่ ภูวเนตร สีชมพู ที่เคยปรากฎตัวในบทฝรั่งลูกอีสานจากไทบ้านเดอะซีรีส์มาก่อน 

และจากพื้นเพความรู้ด้านสถาปัตยกรรมศาสตร์ งานออกแบบที่เห็นในหนัง รักหนูมั้ย เลยไม่ธรรมดายิ่งได้รู้ถึงที่มาที่ไปกับความทะเยอทะยานถึงขั้นทิ้งฟุตเตจไป 6 คิวเพราะแบบบ้านไม่ได้ตามต้องการแล้วล่ะก็เรายิ่งต้องพินิจพิเคราะห์สัญญะที่ส่งผ่านพื้นที่ในบ้านที่เปรียบดังตัวละครสำคัญให้ดีแล้วล่ะ

รีวิวหนัง รักหนูมั้ย

ยิ่งหนังใช้พื้นที่บ้านหลังเดียวในการบอกเล่าเรื่องราวเกิน 90% ทำให้การเปลี่ยนแปลงของตัวละครจะสัมพันธ์กับบ้านไปด้วย ทุกอย่างถูกออกแบบอย่างเป็นเหตุเป็นผลทั้งห้องนอนที่กิวใช้ในกามกิจของตนกับสาวมากหน้าหลายตา

หรือพื้นที่ตรงกลางที่ทั้ง 4 คนใช้เวลาร่วมกันทั้งกินข้าวไปจนถึงเลี้ยงลูกน้อย เราจะเห็นพื้นที่ที่เคยเป็นที่เกิดเหตุ (เรื่องคืนนั้นในตอนต้นเรื่อง) กลายเป็นผลลัพธ์ที่เห็นการเปลี่ยนแปลงของตัวละครได้อย่างชัดเจน

การดำเนินเรื่อง

แต่สิ่งที่มหัศจรรย์จริง ๆ ของหนังคือบทภาพยนตร์ที่ท้าทายบรรทัดฐานของสังคมเพราะความสัมพันธ์ระหว่างวัยรุ่นที่ท้องไม่พร้อมยิ่งเกิดกับไซด์ไลน์หน้าตาดีที่ขายบริการให้ผู้ชาย 3 คนในบ้านหลังเดียวกันย่อมดูเป็นเรื่องราวที่ไม่ปกติระดับป้าข้างบ้านได้ยินคงเอามือทาบอกแน่ ๆ

แต่ทีละน้อยตัวหนังก็ค่อย ๆ ใช้เวลาของมันอย่างคุ้มค่าด้วยการถักทอเรื่องราวความสัมพันธ์ของตัวละครและเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่มาพิสูจน์เส้นทางการเติบโตของตัวละครได้อย่างเป็นเหตุเป็นผล

และที่เหนือชั้นกว่านั้นคือการที่บทหนังตั้งคำถามถึงความรับผิดชอบที่สังคมมีต่อเยาวชนในปัจจุบันทางอ้อม เราจะเห็นฉากที่พ่อของพลอยมาที่บ้านและแสดงให้เห็นว่าผู้ใหญ่ในปัจจุบันไม่อาจพึ่งพาได้ขนาดไหน

หรือกระทั่งป้าของจอห์นที่ไม่เคยกลับมาบ้านเลยก็เหมือนปล่อยให้หลานดูแลตัวเองแบบตามมีตามเกิด ดังนั้นความคิดที่เอ็กซ์ตรีมถึงขั้นเป็นพ่อร่วมกัน 3 คนเลยกลายเป็นตลกร้ายในตัวเองอยู่แล้ว

เพราะ จอห์น ออฟ และกิว ก็ถูกสถานการณ์บีบบังคับให้รับผิดชอบทั้งที่ตัวเองก็ยังไม่พร้อมและแทบเอาตัวไม่รอด ที่เลวร้ายกว่านั้นหนังยังกล่าวถึงสังคมรอบนอกที่พวกเขาเป็นห่วงนักหนาว่าพลอยจะโดนครหาว่าเป็นเมียหลายผัว

หรือพลอยเองก็ต้องจำทนเงียบเสียงเมื่อเจอคำพูดของกิวที่ตอกย้ำสถานะอาชีพขายบริการของเธอ นั่นเลยทำให้บ้านหนึ่งหลังถูกแทนภาพไปไกลถึงผลพวงจากสังคมไทยที่ปากว่ามือขยิบได้อย่างเห็นภาพชัดเจน

ผลงานการกำกับของ ภูวเนตร สีชมพู

เมื่อคืนวานนี้ (29 ต.ค.) หนังได้ทำการจัดรอบปฐมทัศน์ให้กับสื่อมวลชนและแฟนๆ กลุ่มแรกได้พิสูจน์กับตาตัวเองเป็นครั้งแรกในเมืองไทย ณ โรงภาพยนตร์เมเจอร์ ซินีเพล็กซ์ รัชโยธิน

โดยผลลัพธ์ที่ผ่านมาถือว่าค่อนข้างประสบความสำเร็จเกินคาด เพราะหลายๆ เสียงต่างยกย่องว่าหนังมีดีกว่าที่คิด สนุกและประทับใจ บางคนถึงกับเทคะแนน 10 เต็ม 10 ให้กับหนังเรื่องนี้เลยทีเดียว

โดยเฉพาะความใสซื่อในการเล่าเรื่องที่เป็นความจริงใจที่เป็นเสน่ห์หลักของจักรวาลหนังชุดนี้เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ประกอบกับการแสดงที่เป็นธรรมชาติ

และการกล้าที่จะหยิบคาแรกเตอร์หญิงค้าบริการมาเป็นตัวเอก ที่แทบไม่เคยมีหนังไทยเรื่องนี้ไหนนำประเด็นนี้มาชูเรื่องหลัก และหนังก็ถ่ายทอดได้ออกมาเป็นอย่างดี

รักหนูมั้ย เป็นผลงานการกำกับของ ภูวเนตร สีชมพู หนึ่งในผู้ปลุกปั้นจักรวาลไทบ้าน โดยหนังมีกำหนดเข้าฉายในวันที่ 5 พฤศจิกายนนี้ แต่มีฉายรอบพิเศษช่วงค่ำ ตั้งแต่ 30 ตุลาคมนี้ เป็นต้นไป เฉพาะโรงหนังในพื้นที่ภาคอีสานเท่านั้น

รักหนูมั้ย หนังจากจักรวาลไทบ้าน แนะนำตัวละครทั้ง 4

“ต้องเต” หรือ “ธิติ ศรีนวล” ผู้เคยรับบท “คนบ้า” ใน “ไทบ้าน เดอะซีรีส์” กลับมาคราวนี้เขารับบท “จอห์น” หนุ่มนักศึกษาช่างศิลป์ผู้เก็บความรู้สึกไว้ภายใน

แต่เวลาปลอดปล่อย เขาระเบิดมันตูมเดียวหายเกลี้ยง เรียกว่าเป็นคนที่เรียกน้ำตาจากผู้ชมได้มากที่สุด, “ด้งเด้ง” หรือ “ณัฐวุฒิ แสนยะบุตร” จากบทบาท “จารอด”

พระเอกหนุ่มผมยาวใน “ไทบ้าน เดอะซีรีส์” กลับมารับบทเป็น “ออฟ” ช่างไม้จอมปั่น เขามีแฟนสาวสวยเป็นคนเหนือ มักจะสร้างความฮาให้ผู้ชมมากที่สุด การปล่อยมุกปั่น มุกตลก ตบโต๊ะ

โชว์สกิลแบบบทที่วางไว้ให้ไม่พอ ต้องด้นสดให้เห็นอยู่บ่อย ๆ ด้วย, “ตาต้า” หรือ “ชาติชาย ชินศรี” ที่เคยทำคนดูเสียน้ำตาจากบท “เซียง” หนุ่มจอมกวนผู้กลายเป็นพระใน “ไทบ้าน เดอะซีรีส์”

กลับมาคราวนี้เขารับบทหนักที่สุดคือต้องเล่นเป็น “กิว” หนุ่มเพลย์บอยผู้ไม่เอาไหน แม้เนื้อเรื่องจะส่งบทให้เขาถูกเพื่อนมองว่าชีวิตติดลบ แต่เขาก็ยังแสดงความรู้สึกและความอบอุ่นจากภายในให้เห็นโดยตลอด

และสุดท้าย นางเอกสาวหน้าใหม่ ภัทร์ธีราภรณ์ สุโพธิ์ หรือ “ยีนส์” รับบทสาวไซด์ไลน์ “พลอย” ที่แม้จะดูแรงเกินตัว แต่ฝีมือการแสดงของเธอในซีนดราม่า รับรองว่าไม่ธรรมดาแน่นอน เรียกน้ำตาคนดูได้จริง ๆ

บทสรุปโดยรวมภาพยนตร์

การเล่าเรื่อง ผ่านบทสนทนาง่าย ๆ ระหว่างตัวละคร (แบบดูเพื่อนกำลังคุยกัน) ทำให้ผู้ชมเข้าถึงอารมณ์ตัวละครได้ไม่อยาก แม้จะมีภาษาอีสาน ภาษาเหนือ แต่ก็ยังใช้คำได้สละสลวย ขณะที่เนื้อหาที่ท้าทายสังคมแบบสุดโต่ง คือ แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยหากจะบอกว่าชายหนุ่มในบ้าน 3 คนมีภรรยาคนเดียวกัน

แต่เพราะการเล่าเรื่องแบบตรงไปตรงมา ใส่บริบทหลายอย่างให้ผู้ชมเข้าใจ ว่าการอยู่รวมกันดังกล่าวไม่ใช่เป็นเรื่องน่าอับอาย หรือ มีเนื้อหาส่อไปในทางอนาจาร แต่มันเป็นการสะท้อนชีวิตวัยรุ่นที่ไม่พร้อมจะมีครอบครัว ให้กลับมาลุกขึ้นมาสู้อย่างสุดกำลัง พล็อตหนังค่อนข้างยาวและแบ่งเป็นระยะเวลา

เพื่อแสดงให้เห็นว่า ชีวิตวัยรุ่นมีลองผิดลองถูก ฉากซีนดราม่า เรียกน้ำตา แม้จะเป็นเพียงซีนสั้น ๆ ก็ยังทำออกมาได้ดีมาก ผู้ชมหลายคนอินและเข้าใจในอารมณ์ของตัวละครได้ไม่ยากเย็น

ด้วยเนื้อหาที่ท้าทายศีลธรรม ประกอบกับไม่ได้อธิบายขยายความในประเด็นที่ล่อแหลม หรือมีการประชาสัมพันธ์ค่อนข้างน้อย ทำให้คอหนังไทยที่ยังไม่ได้ชมภาพยนตร์เรื่องนี้ คิดไปในแง่มุมอื่นเสียก่อน ซึ่งบางคนอาจตั้งคำถามไปแล้วว่าเหมาะสมหรือไม่ บ้างก็ไม่กล้าเข้าไปดูเพราะคิดว่าเนื้อหา

คงเป็นเพียงเรื่องราวความรักของวัยรุ่นเท่านั้น บทหนังที่ดี ส่งให้ผู้ชมอินกับเรื่องได้อย่างเต็มที่ ครบทุกรสชาติ ตลกฮาน้ำตาไหล แฝงด้วยแง่คิดชีวิตวัยรุ่น โดยเฉพาะคนเป็นพ่อ-แม่ จะอินมาก ๆ ประทับใจแน่นอน

ติดตามรีวิวหนังเรื่องๆได้ที่ รีวิวหนัง โปรแกรมหน้า วิญญาณอาฆาต หนังสยองขวัญไทยจากค่าย GDH

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *