รีวิวหนัง สิงสู่ หนังไทยแนวสยองขวัญระทึกขวัญ

รีวิวหนังผีไทย สวัสดีค่ะทุกคนกลับมาพบกันในวันนี้ เรามีภาพยนตร์เรื่อง สิงสู่ มานำเสนอทุกคนได้อ่านกัน ซึ่งเรื่องนี้เป็น ภาพยนตร์สยองขวัญและระทึกขวัญของไทย กำกับโดย วิศิษฏ์ ศาสนเทียง ภาพยนตร์เรื่องนี้บอกเล่าเรื่องราวของนิกายหนึ่งในสถานที่ห่างไกลจากผู้คน

มีการทำพิธีอัญเชิญวิญญาณเข้าสู่ร่างลึกลับ แต่ก็มีวิญญาณแปลก ๆ เข้ามาด้วย และดูเหมือนว่ามันจะเข้าครอบงำร่างกายของใคร ๆ ได้ตลอดเวลา ทุกคนในนิกายต้องหาทางป้องกันตนเองจากวิญญาณแปลก ๆ เหล่านี้และเอาชีวิตรอด

ภาพยนตร์เรื่องนี้มีนักแสดงมากความสามารถร่วมแสดง ได้แก่ ทาริกา ธิดาทิศ รับบทเป็น นายแม่ ผู้นำนิกายผู้ปลุกจิตสำนึก เธอเป็นคนที่คนอื่นกลัว ถัดมาคือ อนันดา เอเวอริงแฮม รับบท เดช ชายหนุ่มที่เป็นทายาทเพียงคนเดียวของแม่ ถัดมา ณัฐทวีรานุช ทองมี รับบท ปรางค์ แฟนสาวเดช

ถัดมาคือ ธีรวัฒน์ มูลวิไล รับบทเป็น กฤษ นักเรียนผู้หลงใหลมนต์ดำ คนต่อไปคือ พีรพล กิจรื่น ภิรมย์สุข รับบทเป็น นพ บุคคลในนิกายที่เข้ามามีสวัสดิการบางอย่าง ถัดมาคือ จารุนันท์ ปัณฑฉัตร รับบทเป็น ครัวสาวใช้ผู้ซื่อสัตย์ของนิกาย

และคนสุดท้ายที่จะแนะนำในวันนี้คือ พลอย ศรนรินทร์ รับบทเป็น สร้อย เด็กสาวกำพร้าที่เครือรับมาดูแล ช่องทางการรับชม ดูหนังฟรีออนไลน์

รีวิวหนัง สิงสู่

ผลงานผู้กำกับ วิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง

มื่อพูดถึงชื่อของผู้กำกับอย่างวิศิษฏ์ ศาสนเทียง ก็น่าจะทำให้คนยุคนี้นึกถึงหนังสยองขวัญอย่าง “เป็นชู้กับผี” ซึ่งเป็นหนังสยองขวัญย้อนยุคที่เข้าฉายในปี 2549 แม้ว่าในช่วงเวลาที่ออกฉายก็ตาม หนังอาจจะได้รับ ได้รับการยกย่องในระดับหนึ่ง

แต่อย่างหนังเรื่องนี้ก็ยังฉายซ้ำทางฟรีทีวีและช่องดูหนังต่างๆ ซึ่งผู้ชมจะได้สัมผัสกับกลยุทธ์การเล่าเรื่องที่ไม่ธรรมดาพร้อมกับการพลิกกลับความคาดหวังของผู้ชมในตอนท้ายของเรื่อง จนทำให้หนังเรื่องนี้เป็นหนังสยองขวัญที่ดีที่สุดเรื่องหนึ่งของประเทศไทยตลอดกาลกล่าวได้ว่า

หากมองย้อนกลับไปอาชีพการงานในอดีตของวิศิษฐ์ ศาสนเทียง เขาคือคนสร้างหนังแนวสยองขวัญขาประจำ เขามีส่วนร่วมในภาพยนตร์ผียอดเยี่ยมหลายเรื่อง

รวมถึงนางนาค (2542) ผลงานที่เขาเขียนบทเอง เป็นชู้กับผี(2549) และรุ่นพี่ (2558) ซึ่งเป็นภาพยนตร์ที่เขากำกับด้วย ตัวเอง แต่ละเรื่องมีแนวทางที่แตกต่างกันและไม่ซ้ำกัน

กำหนดฉาย: 13 ธันวาคม 2018

แนว: สยองขวัญ

นำแสดง: อนันดา เอเวอริงแฮม, ณัฐฐาวีรนุช ทองมี,พลอย ศรนรินทร์, ทาริกา ธิดาทิตย์

กำกับ: วิศิษฎ์ ศาสนเที่ยง

เรื่องย่อภาพยนตร์ สิงสู่

บอกเล่าเรื่องราวของนิกายภูเขาโดดเดี่ยวห่างไกลจากชุมชน ในวันที่อากาศไม่เป็นใจ คนชุดดำ 5 คนมารวมตัวกัน นำโดยแม่แมะ หญิงชราผมขาวและใบหน้าที่น่าเกรงขาม ทำพิธีกรรมลึกลับบางอย่าง

โดยมีศพลึกลับเป็นเป้าหมาย แต่ไม่รู้เลยว่าพิธีกรรมได้ปลุกวิญญาณประหลาดที่ไม่ได้รับเชิญเข้าไปในบ้าน แต่นั่นเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของความตื่นเต้นอันน่าสะพรึงกลัว เมื่อทุกคนในสำนักนี้ต้องเผชิญกับวิญญาณชั่วร้าย ไม่มีใครคาดเดาได้ มันจะเริ่ม “ครอบครอง” ใครจะเป็นคนต่อไป และเป้าหมายสำคัญของวิญญาณนี้คือ “หยั่งรากและยึดมั่นในวิญญาณ”

ภาพยนตร์เรื่องนี้เปิดฉากอย่างรวดเร็วด้วยพิธีกรรมปลุกจิตวิญญาณโดยให้ข้อมูลเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลยต่อผู้ชม ก่อนที่ฉากจะจบลงด้วยอุบัติเหตุรถชนและวิญญาณชั่วร้ายที่ไม่ได้รับเชิญบุกเข้ามาและคุกคามกลุ่มคนราวกับเกาะร้างที่ถูกปิดตายกลางทะเล

ในหนังฆาตกรรมสยองขวัญที่พระเอกต้องรับบทเป็นนักสืบและต้องสงสัยกัน ใครจะตกไปอยู่ในครอบครองของวิญญาณชั่วร้าย? และใครคือวิญญาณชั่วร้าย ?

แท้จริงแล้วต้องการอะไรจริงๆ ? ความลึกลับของพิธีกรรมนี้ยิ่งกว่านั้นอีก: พิธีกรรมนี้มีไว้เพื่ออะไรกันแน่? นี่เป็นกลไกที่หนังใช้ผสมผสานหนังประเภทต่างๆ จนกลายเป็นหนังผีที่ไม่เหมือนใคร

แล้วใครกันที่จะโดนสิงเป็นรายต่อไป! หนังเรื่องนี้ยังได้รวมเอานักแสดงมากฝีมือในระดับแถวหน้าของเมืองไทยเอาไว้ไม่ว่าจะเป็น อนันดา เอเวอริงแฮม, จ๋า ณัฐฐาวีรนุช ทองมี, นักแสดงอาวุโส ทาริกา ธิดาทิตย์ และ พลอย ศรนรินทร์ เป็นต้น

ความรู้สึกหลังชม

เท่าที่ผู้เขียนดูมา เห็นได้ชัดว่า หนังสิงสู่ เต็มเรื่อง เป็นหนังทุนต่ำ ถ่ายทำที่เดียวเกือบทั้งเรื่อง ทุกสิ่งทุกอย่างในหนังเรื่องนี้มาจากความคิดของผู้กำกับ ที่ถ่ายทอดผ่านการแสดงของนักแสดงล้วนๆ แทบไม่มีการตกแต่งใดๆ ทั้งสิ้น

แต่บางครั้งผู้เขียน ก็รู้สึกว่าตัวละครไม่ได้แสดงอย่างเป็นธรรมชาติในหลาย ๆ ฉาก และเล่นใหญ่เกินไป บทสนทนาดูเหมือนมีสคริปต์มาก หรือแม้แต่ท่ายืนและเดินบางครั้งก็ดูตั้งใจเกินไป ดูเหมือนว่าหนังเรื่องนี้เหมาะที่จะทำเป็นละครเวทีมากกว่านะ และน่าจะเป็นละครเวทีที่ดีมาก

ส่วนเรื่องสยองขวัญบอกตามตรงว่ามันยังไม่จบ ปีศาจเข้าสิงคนนั้นแล้วย้ายไปที่คนนี้ทำให้เกิดความวุ่นวายมากมาย แต่ยังเป็นเพราะการแสดงที่ดูน่ารังเกียจ แต่งหน้าหน้าผีที่ดูปลอมดูปลอม แค่ทาหน้าให้ขาวแล้วใส่คอนแทคเลนส์สีขาวก็จะกลายเป็นผีแล้ว มันเลยทำให้เราสะดุ้งก่อนที่จะถึงขั้นกลัว

(ถึงแม้ตัวละครทุกตัวจะรับบทเป็นผี แต่ก็ทุ่มเท ไร้กังวล และหล่อเหลา) ในส่วนของเสียงประกอบ เสียงของผีดูตลกและให้ความรู้สึกเหมือนกอลลัม หรือตามหนังผีตะวันตก ส่วนเพลงประกอบก็ดูเข้ากับหนังดี ฟังดูเหมือนเพลงประกอบภาพยนตร์คลาสสิกย้อนยุค แต่บางครั้งก็ใช้เสียงดังเกินไปและมากเกินไปจนทำให้หูหนวก

เนื้อเรื่องเป็นภาคที่ดูเหมือนจะมีเนื้อหามากที่สุดในหนัง เพราะมันซ่อนอะไรบางอย่าง ให้เรารู้มากมาย เช่น จุดประสงค์ของพิธีกรรมตอนต้นเรื่องคืออะไร? ศพห่อผ้าคือใคร ? วิญญาณเร่ร่อนมาจากไหน ?

อดีตของแต่ละคนในนิกายมีความลับอะไรบ้าง? ก่อนจะโดนเฉลยในตอนสุดท้ายต้องอ้าปากกรี๊ด! นอกจากนี้ตามสไตล์หนังของวิศิษฐ์ ศาสนเทียง อะไรๆ ก็ต้องละทิ้งไป ทิ้งไว้ให้ตีความต่อไปหลังออกจากโรงหนัง

ความน่าสนใจของภาพยนตร์

ตาม หน้าหนัง ที่เราเห็นผ่านโปสเตอร์ เรื่องย่อ และตัวอย่าง หนังเรื่อง สิงสู่ สปอย หนังสยองขวัญที่เต็มเปี่ยม มีเรื่องราวชวนติดตาม ตัวละครมีความขัดแย้งภายใน มีความสัมพันธ์ที่เจ็บปวดและจริงใจที่ถักทอเข้าด้วยกัน

และยังมีฉากที่น่าตื่นเต้นอีกด้วย ยิง Jump Scare เป็นระยะ โดยเฉพาะช่วงกลาง เรื่องที่วิญญาณถูกสะกดจิตและกลายร่างเป็นคนละคน สร้างความตื่นตาตื่นใจโดยไม่ให้คนดูได้พักจนเรียกได้ว่าซังซองเป็นหนังสยองขวัญที่ตอบโจทย์ความสนุกได้ดีไม่อึดอัด

แต่สิ่งที่น่าสนใจยิ่งกว่านั้นคือการออกแบบตัวละครใน Office พร้อมสมการที่ซ้อนกันในเรื่องราวส่วนตัวที่สามารถแสดงคุณค่าของตัวละครตัวหนึ่งได้ ได้กลายเป็นตัวแทนที่สะท้อนถึง ‘กลุ่ม’ ของคนในชนชั้นต่างๆ ในสังคม ประเภทต่างๆ

ที่พยายามตีความให้เป็นตัวแทนของตัวละครทั้งหมดและเปรียบเทียบกับไทม์ไลน์ที่แท้จริงของการถูก ‘ครอบงำ’ ในประเทศ เป็นกลไกสำคัญที่ทำให้คิดได้อย่างสนุกสนานไม่แพ้กัน

หากนึกถึงแนวคิดหลักของหนังที่วิศิษฐ์เคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า “ผีจะโจมตีคนที่หวาดกลัว ความกลัวจะเรียกมันมา”

ตัวละครแต่ละตัวในเรื่องมีความกลัวที่แตกต่างกัน จากกลัวจะสูญเสียบางสิ่งบางอย่างและอยากจะทวงคืน, กลัวสูญเสียศรัทธาและไม่กล้าเชื่อใจใครอีก, กลัวไม่ได้รับผลประโยชน์, กลัวไม่สามารถอยู่รอดได้ เป็นต้น

จุดเด่นและจุดด้อยของหนัง สิงสู่

หนังเรื่องนี้ไม่ได้ปกปิดได้ดีเหมือนกับความลึกลับของมัน เพราะเราเห็นข้อจำกัดของทุนชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นการแต่งหน้าตอนถูกครอบงำ เช่น การลงพื้นหนักๆ การทาขอบตาดำ การใส่คอนแทคเลนส์เก๋ๆ นั่นเอง หรือเทคนิคพิเศษที่หาชมได้ยาก

ซึ่งเมื่อรวมกับการแสดงในบางฉากที่เหมือนอยู่บนเวทีละคร สีหน้าแปลกๆ การแต่งหน้าสีขาว และคำพูดที่ดุร้ายและไม่เป็นธรรมชาติ ทำให้ดูเหมือนเป็นหนังลัทธิทุนน้อยที่ตลกโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่หนังก็รอดด้วยเสียงดนตรีที่ข่มขู่เราเหมือนหนังยุโรปดีๆ และพลังของนักแสดงทำให้เราละสายตาจากไปไม่ได้เลย

รีวิวหนัง สิงสู่

จุดด้อยสำคัญอีกประการหนึ่งของหนังเรื่องนี้ก็คือไคลแม็กซ์ที่มีการเปิดเผยโครงเรื่องสำคัญนั้น คุณเกือบจะเดาได้ตั้งแต่ต้นเรื่อง และยิ่งคุณเชื่อมากขึ้นเมื่อเห็นคำแนะนำไปพร้อมกัน มากจนแทบไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นที่ทำให้ผู้ชมตกใจในตอนท้าย

แต่ในขณะเดียวกันหนังก็มีจุดแข็งมากในการเป็นหนังที่เข้าถึงสังคมและการเมือง ประวัติศาสตร์ลงอย่างราบรื่น ทำให้บางคนบอกว่ามีไม่ครบซอง หรือไม่เข้าใจบางจุด นั่นเป็นเพราะว่าหนังนั้นซ่อนอย่างแหลมคมและสามารถซ่อนได้ลึกมาก ใครตีความได้จะรู้สึกขนลุกมากกว่าตัวหนังเอง

บทสรุปเนื้อหาโดยรวม

ภายใต้ความกลัวนั้น เราได้เห็นตัวละครต่างๆ ที่พาตัวเองไปตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่สบายใจ บางคนพยายามค้นหาความจริง บางคนพยายามช่วยเหลือและแก้ไขสถานการณ์ให้กับคนอื่น บางคนไม่สนใจอะไรมากไปกว่าการอยู่รอดในแต่ละวัน

บางคนพยายามเอาชีวิตรอดเพื่อหาเงินกินเลี้ยงชีพ เพื่อประโยชน์ของตนเอง บางคนที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับสถานการณ์นี้โดยตรง แต่เขาทำได้เพียงเชื่อฟังคำสั่งโดยไม่ขัดขืน และสุดท้ายไม่ว่าคนนั้นจะเป็นใครก็ตาม ผลสุดท้ายก็คือ ทุกคนตกเป็นเหยื่อของการ ‘ถูกควบคุม’ ต่างกันออกไป

ในขณะที่วิญญาณเร่ร่อนเป็นเหมือนพลังของบางสิ่งบางอย่างแม้ว่าจะถูกเรียกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ และมันแตกต่างจากจุดประสงค์ของคนที่เรียกมันตั้งแต่แรก แต่ค่อยๆ เพิ่มความสามารถของตัวเองให้แข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ คนในนิกายทำได้เพียงขับไล่หรือปิดกั้นพวกเขาชั่วคราวเท่านั้น ในที่สุดพวกเขาก็ลอยไปรอบ ๆ รอเวลากลับมายึดร่างของใครบางคนอีกครั้ง

รีวิวหนัง สิงสู่

และที่น่าเศร้าที่สุดคือตัวละครที่ดูเหมือนจะไม่มีความรู้และเกี่ยวข้องกับเรื่องมากที่สุด แต่กลายเป็นตัวละครที่ต้องทนทุกข์ทรมาน และเป็นเป้าหมายของการหลอกหลอนบ่อยที่สุด ในขณะที่ตัวละครที่เป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด ครอบครองเพียงช่วงแรกๆ

และหลับใหลเป็นเวลานาน ให้ตัวละครอื่นๆ ดิ้นรนกับการควบคุมวิญญาณเร่ร่อนและออกมามีบทบาทในช่วงสุดท้ายที่เหตุการณ์บานปลายเช่นนี้ ขอบเขตที่วิญญาณมีอำนาจเหนือการควบคุม

เพราะหนังเรื่องนี้มีความหมายปลายเปิด และต้องใช้ประสบการณ์และความเข้าใจทางการเมืองไม่น้อย สารภาพตามตรงว่า ในฐานะคนที่ไม่ติดตามข่าวการเมืองอย่างเข้มข้น เราไม่แน่ใจว่าจะตีความและนำเสนอสมการตามตัวละครต่างๆ ได้อย่างไร ถูกต้องตามที่ผู้กำกับต้องการนำเสนอหรือไม่ ?

สรุปผู้เขียนคิดว่าหนังค่อนข้างสนุกและชวนติดตาม แต่น่าเสียดายที่หนังดำเนินเรื่องช้าและอืดไปหน่อย ทำให้คนดูค่อนข้างขัดใจ แต่ถ้าเราพูดถึงเรื่องสยองขวัญแล้ว ถือว่าทำได้ดีมาก แต่ละฉากมีความสมจริง นักแสดงถ่ายทอดอารมณ์ได้ดี ทำให้เราอินตามไปด้วย ส่วนใครที่ยังไม่ได้ดูอย่าลืมพลาดรับชมนะคะ

ติดตามรีวิวหนังเรื่องๆได้ที่ รีวิวหนัง รักหนูมั้ย หนังจากจักรวาลไทบ้าน 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *