รีวิวหนัง แช่ง หนังไทยสยองขวัญ เกี่ยวกับอาถรรพ์จากคำสาปแช่ง ที่เกิดขึ้นจากแรงอาฆาต

หนังไทยใหม่ล่าสุด อาถรรพ์จากคำสาปแช่ง ที่เกิดขึ้นจากแรงอาฆาต ก่อให้เกิดโศกนาฏกรรมแห่งการจองเวร 3 เรื่อง 3 ความแค้น ใน รีวิวหนัง แช่ง หนังผีไทยมักมักจะทำแนวหลายเรื่องสั้นรวมร่างกัน มีธีมร่วมบ้าง หรือบางครั้งบางคราวก็เป็นโปรเจ็กต์รวมคณะทำงานต่างสไตล์ของค่ายแค่นั้น และก็หนังเรื่อง แช่ง

ก็เป็นภาพยนตร์ไทยเรื่องปัจจุบันที่ทำหนังสั้น 3 ตอนรวมกันภายใต้ธีมเดียวกันเป็นคำสาป ต่างที่มา ต่างขั้นตอนการ ต่างช่วง รวมทั้งต่างเหตุผลซึ่ง นับว่าความมุ่งมั่นรวมทั้งแนวความคิดนั้นน่าดึงดูดอยู่พอได้ ถึงแม้หน้าหนังจะมองช่างเดิมๆและไม่มีอะไรเสียเลย

แม้กระนั้นหนังตัวอย่างที่ปลดปล่อยมาก็กลับแสดงให้เห็นว่ามันมีของเด็กเล่นแปลกใหม่ที่น่าติดตาม เป็นการทดสอบรวมทั้งบูชาการเล่าเรื่องผีในต่างๆนาๆกรรมวิธี แล้วก็เมื่อได้ดูตัวหนังเต็ม ก็พบว่าผู้ผลิตมิได้เพียงแค่ต้องการทำหนังผีธรรมดา แต่ว่ายังทดสอบ รวมทั้งเสนอแนวทางการคิดวิพากษ์สังคมไทยอย่างมีกลเม็ดเด็ดพรายด้วย

ถ้าหากเพื่อนๆคนไหนที่อยากรู้ว่าหนังเรื่องนี้จะจบลงแบบไหน มาติดตามรับชมการแนะนำหนังไปพร้อมๆกันในบทความนี้ได้เลยนะคะ ช่องทางการรับชม ดูหนังฟรีออนไลน์

Lorem ipsum dolor sit amet...

รีวิวหนัง แช่ง

หนังเรื่องนี้เป็นผลงานกำกับของ จิต กำเหนิดรัตน์

หนังเรื่องนี้ได้ผลงานดูแลของ จิต กำเหนิดรัตน์ ซึ่งเคยดูแลหนังร่วมในเรื่อง เลิฟอะรูมิไลค์ รักอะไรไม่รู้จัก (2558) รวมทั้งยังเป็นคุณครูสอนกวดวิชา

สาขาวิชาภาพยนตร์ วิชา Art of storytelling ที่มหาวิทยาลัยกรุงเทวดา (2553 -2556) นอกนั้นยังส่งผลงานควบคุมหนังทุนกระทรวงวัฒนธรรมเรื่อง Eternal นิรันดร (2554) อีกด้วย

สำหรับเรื่องแช่งนี้นับเป็นการควบคุมคนเดียวทีแรกกับหนังค่าย มันเวิร์ก และก็อย่างเช่นเดิม ยังสามารถดึงศิลปินระดับผู้ชมรู้จักดีมาร่วมเล่นได้มากมาย อีกทั้ง เดวิด อัศวนนท์

ในตอน แปลก, เคยชิน เคยชินวุฒ อินทรคูสิน กับ ชนชั้นปิยะ ออมสินนพกุล หรือ กวาง เดอะเฟซ ในตอน Tattoo แล้วก็ หน่อง ธนา ฉัตรบริรักษ์ น้องชายของ บอย ปกรณ์ ในตอน แช่ง

โดยแต่ละขณะนั้นต่างแยกกัน มีจุดร่วมผ่านข้าวของเป็นเพียงแต่กิมไม่กเพียงแค่เล็กๆน้อยๆ แม้กระนั้นเมื่อมองจบพวกเราจะพบว่าหนังหลบซ่อนสาระสำคัญด้วยกันอยู่ 1 สิ่ง ซึ่งทำให้หนังประเด็นนี้มีของอยู่พอได้อย่างยิ่งจริงๆ จะคืออะไรนั้นมาดูกัน

Chapter 1 : วิปลาส

แช่ง เต็มเรื่องโจเซฟ (เดวิด อัศวนนท์) นักบวชกลางคนได้รับร่องรอยการถึงแก่กรรมของเพื่อนฝูงนักบวชผู้กระทำหน้าที่มิชชั่นในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง โดยร่องรอยซึ่งก็คือเครื่องบันทึกจานเสียงการแสดงละครรำในคืนที่เช้าใจกันว่าฯลฯโคนของคำแช่งที่ทำให้คนภายในหมู่บ้านเบาๆตายไปกว่าครึ่ง โดยเสียงดนตรีที่ได้ยินนั้น เป็นเสียงร้องที่เพราะเช่นนางอัปสรเล่นเพลงพิณ

แต่ให้ความรู้ความเข้าใจสึกโหยหวนเช่นเดียวกันกับเสียงของซาตาน โจเซฟก็เลยตกลงใจออกไปตามหาตัวการของเรื่องราวทั้งผอง กระทั่งเจอกับความเป็นจริงที่เบาๆเปิดเผยให้มองเห็นถึงด้านมืดของจิตใจมนุษย์

รวมทั้งตัวการของคำแช่งที่น่าขนพองสยองเกล้า เชิญชวนพบเจอจุดจบที่น่าเศร้าในบรรยากาศความลี้ลับน่าสะพรึงกลัวของบรรยากาศบ้านป่าของประเทศสยามในปลายรัชสมัย รัชกาลที่ 6 ที่ความรุ่งเรืองยังไม่รุกคืบความเชื่อถือเรื่องไสยศาสตร์

จุดแข็งของในเวลานี้เป็นขณะ ราชการ6 กับข้อความสำคัญที่ไม่ค่อยพบในภาพยนตร์ไทย เรื่องของมิชชันนารี่ฝรั่งที่จำต้องเดินทางสู่บ้านป่า เพื่อไขคดีลึกลับซึ่งราษฎรต่างมั่นใจว่าเกี่ยวกับไสยเวทตามลัทธิเชื่อถือผี ซึ่งเป็นรากเริ่มแรกของคนประเทศไทย

มันก็เลยเป็นการมองฐานความเลื่อมใสเดิมของพวกเราผ่านสายตาของนักบวชฝรั่งที่เป็นบุคคลภายนอก หรือแม้กระทั้งคนปัจจุบันนี้เองที่เชื่อเรื่องผีสางลดน้อยลง เวลานี้ถือว่าพอดีที่สุดใน 3 ตอน ความหลอนรวมทั้งส่วนประกอบความหลอนจากบ้านป่าเมืองไม่มีอารยธรรม

แล้วก็ขนบที่ห่างเหินจากบรรทัดฐานคติในเวลาเดี๋ยวนี้ ซึ่งเจอในนิยายคลาสสิกแนวสยองขวัญล้นหลาม ทั้งยังการมัดปัญหาที่เบาๆเปิดเผย เบาๆทิ้ง ให้พวกเราหันเหความพอใจไปๆมาๆ ว่าท้ายที่สุดคำสาปแช่งนี้เป็นยังไง รวมทั้งมาจากคนไหนกันแน่ หรือสิ่งใด กันแน่

จริงๆแล้วมันก็ใบ้จนกระทั่งพวกเราได้ในบางคำตอบ แม้กระนั้นในรูปภาพรวมมันก็ยังนำพาพวกเรามาจุดที่จำต้องอึ้งกับข้อสรุปทั้งผองอยู่ดี ถ้าเกิดนับเป็นหนังตอนผู้เดียวๆก็นับได้ว่าเป็นภาพยนตร์ไทยที่เยี่ยมมากๆเรื่องหนึ่งเลย หากแม้ด้วยความจำกัดเวลาจะมีผลให้มันผ่านๆการเชื่อมเล็กน้อยไปบ้างก็ตาม

นอกนั้นหนังยังหลบซ่อนนัยยะสำหรับเพื่อการถือจับใจความสำคัญว่าตัวตนของพวกเรา (ชาวไทย) ในตอนนี้ ถูกอำนาจเหนือขึ้นไปอะไรก็แล้วแต่มาครอบครองอยู่บ้าง น่าสังเกตว่าตอนนี้เกือบจะไม่มี พระ หรือ พุทธ เข้ามาเกี่ยวพันเลย

แต่มากมายก่ายกองทั้งยังหัวโขนฤาษีบิดาอาจารย์โรงแสดงละครรำ ผีป่า ข้อบังคับที่ผิดพลาด อคติของผู้มีอำนาจดูแล ตลอดจนความเป็นผู้ชายที่ครอบครองผู้หญิงเสมอ 

เกี่ยวกับอำนาจแบบสมัยโบราณทั้งหมดทั้งปวง แม้ว่าจะร้อยปีกลายหรือปัจจุบันนี้ เหล่าสถาบันต่างๆเป็นต้นว่า ศาสนาผี อื่นๆอีกมากมาย ต่างยังหลอกขัดเกลาความเป็นพวกเราอยู่โดยตลอด คำบอกเล่าของข้าราชบริพารจีนในเรื่องตอนหนึ่งอาจมีทำพวกเราผวากันทีเดียว

Chapter 2 : Tattoo

เฟรดดี้ (คุ้นชิน เคยชินวุฒ) ชายหนุ่มช่างสักฝีมือยอดเยี่ยมที่ดำรงชีวิตให้ผ่านไปวันแล้ววันเล่า ภายหลังที่จำเป็นต้องเลิกรากับหญิงสาวนาม เฟิร์น (กวาง ชาติชั้นวรรณะปิยะ)

ผู้เป็นรักเดียวใจเดียวของเขา จนตราบเท่าวันหนึ่งเฟิร์นกลับมาหาเขาพร้อมด้วยความน่าสยดสยองอะไรบางอย่างที่ตามหลอก รวมทั้งพาให้คนรอบข้างของคุณจะต้องเจอกับความรันทด จากคำสาปอันเกิดขึ้นได้เพราะมีสาเหตุเนื่องมาจากความหลงใหลจมสู่กิเลสอันล้ำลึก

โดยไม่รู้จักอิโหน่อิเหน่อะไรด้วย เฟรดดี้ก็เลยตกลงใจที่จะปกป้องรวมทั้งกีดกั้นไม่ให้เรื่องราวไม่ดีเกิดขึ้นกับผู้ที่เขารักอีกทั้ง 2 ถึงแม้จำเป็นต้องพบเจอกับความผิดบาปที่ทั้งคู่ต่างมีส่วนร่วมสร้างมันขึ้นมาหามไว้ที่ตัวเอง

เล่าผ่านด้วยอารมณ์ความรักอันแสนอึมครึม แล้วก็ความเย็นเยียบที่กัดรวมถึงเหงาหงอยของวัยรุ่นยุคใหม่ท่ามกลางความอลหม่านในเมืองหลวง

ในตอนนี้น่าสนใจด้วยวิธีการเล่า ทุกๆสิ่งทุกๆอย่างเกิดขึ้นแบบมีลับลมคมในตลอด ถึงแม้ไปกลางเรื่อง พวกเราจะเริ่มทายใจพล็อตหลักของปัจจุบันนี้ได้ก็ตามว่าการแช่งเดี๋ยวนี้เกี่ยวกับเรื่องรักๆใคร่ๆความหึงหวง

ถึงกระนั้นมันก็ยังน่าดึงดูดว่าแล้วคำสาปนี้มันเป็นยังไง ตัวประหลาดที่ไล่ฆ่าผู้คนรอบกายนั้นเป็นสิ่งใด อะไร ยังไงกันแน่

สิ่งที่ชอบใจพวกเรามากมายเป็นการแสดงของ กวาง ที่สามารถพูดได้ว่าเผ็ชเข็ดฟันงามน่าหลงใหลสมหน้าที่มากมายๆเป็นคุณนี่หามหนังอยู่สบายๆเลย เพราะว่าการแสดงส่วนอื่นก็ทำเป็นดีด้วยไม่ใช่แค่ว่างามไปเรื่อยโดยกิมไม่กที่เชื่อมทีแรกๆกับช่วงนี้ก็คือเครื่องเล่นแผ่นเสียงจากช่วงแรกนั่นเอง

นอกเหนือจากนี้หนังยังใบ้ถึงอำนาจที่มอมเมาผู้คนในสมัยสายลมแสงอาทิตย์นี้ก็คือ คำว่ารัก โดยมิได้ซึ่งก็คือความรัก แม้กระนั้นเป็น รัก ที่พวกเราขัดเกลาจากเพลง เอ็มวี หนัง เป็นภาพจำที่แปลงเป็นการถือสิทธิ์ครอบครองวัตถุมากยิ่งกว่า ผู้ที่พวกเรารัก

เป็นอีกในขณะที่น่าดึงดูดถึงแม้สารจะมิได้ว้าวมากเท่าไรนักเพราะว่าพล็อตความรักมันเกร่อมามากมายแล้วในแต่ละสื่อ แต่ทว่าการใช้ปัญหาบวกกลเม็ดการหลอนประสาทนักแสดงนั้นจัดว่าทำเป็นน่าดึงดูดและก็ดีทีเดียว

Chapter 3 : สาปแช่ง

ซัน (หน่อง ธนา) หนุ่มผู้ซึ่งมานะเป็นที่ยอมรับ รวมทั้งเป็นผัวที่ดีของจีจี๋ผู้เป็นเมีย วันหนึ่ง เขากำเนิดจำไม่ได้ว่ากำเนิดอะไรขึ้นในตอนสามวันที่ผ่านมา รวมทั้งเขามีความรู้สึกว่ามีอะไรตามหลอกเขาตลอด

จนกระทั่งคนที่อยู่รอบข้างต้องหาแนวทางช่วยเหลือเรื่องราวที่เขาจะต้องพบเจอ ปะติดปะต่อกันถึงสาเหตุของความทรงจำที่หายไป ในที่สุดทุกสิ่งก็ถูกเฉลยคำตอบ และก็ทุกคนก็จำเป็นต้องเห็นด้วยในสิ่งที่เกิดขึ้นอันเป็นผลมาจากพวกเขาเอง

นี่เป็นตอนที่ทดสอบอะไรมากมายสุด มีของมากมาย แม้กระนั้นปลดปล่อยมาชนปนมั่วไปหน่อย ทำให้พล็อตหลักมัวแล้วก็เปลี่ยนเป็นในระหว่างที่เฟลที่สุดใน 3 ตอน

ขั้นแรกนั้นหนังทำเป็นค่อนข้างจะดีกับการมัดปัญหาซึ่งราวกับเป็นวิธีการเล่าที่ผู้กำกับใช้มาตลอดทุกตอนให้คนพึงพอใจติดตามค้นหาข้อเท็จจริง แต่กับเวลานี้นั้นกลับใส่แนวทางของปัญหามามั่วเกินความจำเป็น 

ทั้งยังเรื่องผีสตรีที่ใบหน้าเหมือนแฟนของผู้แสดงนำชาย ภาพมายาในวัยเด็กที่ดารานำชายแอบมองเห็นอาจารย์บังอรเล่นคุณไสย เพื่อนพ้องสาวสถานที่ทำงานของดารานำชายที่โดนโซเชี่ยลรุมแช่งเนื่องจากว่าบางสิ่งบางอย่างที่ผู้แสดงนำชายทำไว้

รีวิวหนัง แช่ง

รวมทั้งความจำของผู้แสดงนำชายที่หายไป มีเรื่องมีราวการสะกดจิต รวมทั้งพิธีการแช่งมาร่วมอีก ทั้งยังอารมณ์มีทั้งยังสอบปากคำ ทั้งยังผี อีกทั้งตลกขบขัน ซึ่งยังไม่กลืนกลมกลืนนักโดยเฉพาะอย่างยิ่งรูปร่างความเป็นขบขันที่หลุดราวกับน้ำคนละเนื้ออยู่ ส่วนกิมไม่กที่เชื่อมกับในขณะที่ 2 ก็มีรูปปั้นสาวงามที่ใช้ประกอบพิธีแช่ง

แต่ถึงกระนั้นถ้าหากดูถึงแก่นการติดต่อสื่อสารปัจจุบันนี้แล้วนั่นจำต้องสารภาพว่าน่าพอใจมากมายๆเนื่องจากว่าถึงแม้เปลือกมันจะบอกเรื่องความรักความเชื่อมโยง แต่ว่าด้วยส่วนประกอบต่างๆมันเอ่ยถึงอำนาจสถาบันการสอนที่ขัดเกลาเด็กไทยขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ที่บ้าน

หรืออาจารย์ที่สถานศึกษาที่ใช้เวลาการเจริญเติบโตของเด็กคนหนึ่งขึ้นมาเยอะที่สุด มันมีเสียงอย่าง ทึ่มอย่างเอ็งจะเลี้ยงชีวิตตนเองอย่างไร วาดภาพอยู่ได้จะเอาไปทำอะไรได้ อะไรแบบงี้อยู่เสมอเวลาการอยู่ในวงกตของความจำของพระเอก

ซึ่งสุดท้ายหนังก็ให้ทางออกที่ตลกขบขันร้ายดีเช่นกัน กับการต่อสู้กับสถาบันที่ขัดเกลาพวกเรามาทั้งปวงกระทั่งโตเป็นผู้ใหญ่ ซึ่งจะคืออะไรนั้นจำเป็นต้องไปรับชมด้วยตาของตัวเองดูนะคะ

ความรู้สึกหลังรับชม

ภายหลังได้ดูทั้งยังสามตอนจนกระทั่งจบจะมองเห็นได้อย่างเห็นได้ชัดว่าในตอน วิปลาส รวมทั้ง แทททู นั้นนับว่าทำออกมาได้ค่อนข้างจะดี โดยยิ่งไปกว่านั้นการมัดเรื่องราวให้น่าติดตาม สร้างความหลอนด้วยเสียงเพลงไทยทำให้ผู้ชมขนลุกก้าวหน้าสุดๆยิ่งได้เรื่องแสดงอันดีเลิศของ เดวิด อัศวนนท์ และก็ คุ้นชิน ชินวุฒ ก็ยิ่งทำให้หนังน่าดูขึ้นมาอีกเท่าตัว

นอกเหนือจากสองผู้แสดงนำฝ่ายที่กล่าวมาแล้วแล้ว ดาราหนังสมทบของทั้งคู่เรื่องก็ล้วนแต่ช่วยเหลือกันเสริมอารมณ์ของหนังให้น่าขนลุกมากขึ้นไปอีก อีกหนึ่งเซอร์ไพรส์ก็คือความสามารถของ กวาง วรรณปิยะ กับการแสดงภาพยนตร์เรื่องแรกของเธอที่ฉายแววและก็สร้างเสน่ห์ส่วนตัว ซึ่งถือว่าเป็นสอบได้ได้ดีมากๆเลยทีเดียว

และก็จำเป็นต้องสารภาพว่าพอเพียงมาถึงตอนสุดท้าย คำแช่ง ที่นำแสดงโดย หน่อง ธนา นั้นไม่ได้สร้างความระทึกใจเหมือนกับสองตอนแรกเลย

ไม่แน่บางทีออกมาค่อนจะแป้กเสียด้วยซ้ำ รู้เรื่องว่าเดี๋ยวนี้ผู้กำกับคงจะต้องการจะแตกต่างความระทึกออกมาไม่ให้ซ้ำก็เลยทำให้เรื่องราวของสองผัวเมียมองแปลกๆเกินจริงอย่างไม่มีเหตุผลไปๆมาๆ

อีกอย่างจำต้องบอกตามจริงว่าค่อนจะขัดใจกับบทของ จีจี้ ผู้เป็นภรรยามากมาย ทั้งยังในเรื่องของน้ำเสียง การแสดงต่างๆที่ดูเหมือนไม่ค่อยชอบใจเลย ทั้งในตอนสุดท้ายของตอนสุดท้ายนี้ยังมีความคิดว่าแหวกธีมหนังไปไกลสุด

บทสรุปโดยรวมภาพยนตร์

โดยภาพรวมและนับว่า แช่ง เป็นภาพยนตร์ไทยเปิดศักราชใหม่ได้ดีทีเดียว อย่างที่บอกโดยยิ่งไปกว่านั้นสองตอนแรกที่ทำเอาผู้ชมอย่างพวกเราเกือบจะนั่งไม่ติด

ลุ้นระทึกไปกับเรื่องราวอาถรรพณ์ลึกลับที่แม้ว่าจะมิได้ประหลาดไปจากหนังสยองขวัญเรื่องอื่นๆมากสักเท่าไรนัก แม้กระนั้นก็นับว่าเป็นอีกรสหนึ่งที่ช่วยมาสร้างสีสันได้อย่างดีเยี่ยม

รีวิวหนัง แช่ง

ทั้งยังยังได้แง่คิดสำคัญเกี่ยวกับการใช้ชีวิตของมนุษย์ที่ถูกสะท้อนมาจากเรื่องราวทั้งยังสาม ซึ่งล้วนแต่มีสาเหตุมาจากการกระทำที่ไม่ยั้งคิดที่ถูกเติมแต่งด้วยเรื่องราวเหนือธรรมชาติมาสร้างความรื่นเริงใจให้ได้ดูกัน

ทั้งสามเรื่องเราว่าปัญหาเดียวที่มีคือการตัดต่อที่ยังไม่ค่อยลื่น ตัดฉากสลับไปมาเลยทำให้เรารู้สึกไม่ต่อเนื่อง แต่ด้วยเนื้อเรื่องทั้งสามที่เรียกว่าไม่ได้ none-sense ซะจนรับไม่ได้ แถมยังตรงกับสิ่งที่ผู้กำกับต้องการจากคนดู ให้ตระหนักถึงคำพูดที่ได้เอ่ยออกไปทุกคำ

การที่เราพลั้งพลาดพูดแช่งอะไรใครไป มันไม่มีทางจะนำสิ่งที่ดีกลับมาให้ใคร ทั้งตัวคนที่เราแช่ง หรือแม้แต่ตัวเราเอง ก็คิดว่าหนังจะสอนให้คนดูตระหนักอะไรได้ไม่มากก็น้อย

สรุปว่าอยากให้ลองไปดูกัน ถือว่าเป็นอีกหนังสยองขวัญไทยที่ดี และควรค่าแก่การเข้าไปลองสัมผัส อาจไม่ใช่หนังที่ดีมากๆ แต่หนังก็ยังมีส่วนดีของมันที่ฝากอะไรให้เรากลับไปได้

ติดตามรีวิวหนังเรื่องๆได้ที่ รีวิวหนัง ขุนแผน ฟ้าฟื้น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *